เต่าที่พบทั่วโลกนั้นสามารถแบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม ซึ่งปัจจุบันผู้คนเริ่มให้ความสนใจกับการเลี้ยงเต่ามากขึ้น จึงน่าจะมีการศึกษาเรื่อง ชนิดของเต่าทั่วโลกออกมาเป็นภาษาไทยบ้าง ซึ่งผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่คลั่งไคล้เต่าเอามากๆ จึงอยากจะรู้ที่มาที่ไป ให้ถึงต้นตระกูลกันเลยทีเดียว แต่เมื่อเห็นข้อมูลเต่าทั่วโลกแล้ว ผมต้องยอมรับว่ามีมากเหลือเกิน แต่ด้วยความที่เป็นคนใจร้อนก็เลยอยากจะเขียนลงเร็วๆ โดยเขียนเป็นฉบับย่อไปก่อน แล้วหากมีเวลาว่างๆจะทยอยเขียนรายละเอียดที่เหลือต่อนะครับ แต่ขอออกตัวก่อนะครับว่าผมนั้นเป็นเพียงผู้ที่ชื่นชอบเต่าเท่านั้น ไม่ได้ร่ำเรียนทางนี้มาแต่อย่างใด ข้อมูลทั้งหลายล้วนมาจากเอกสาร หนังสือ และบรรดาเว็บไซต์ต่างๆ จึงจำเป็นที่จะต้องอ้างถึงบุคคลที่กระผมไปขอหยิบยืมมาด้วยนะครับ เต่านั้นสามารถจัดตามลำดับอนุกรมวิธาน โดยอ้างจาก Zug et al. 2001 และ Frost et al. 2001 ได้ดังนี้ เต่าทั้งหมดจัดอยู่ในชั้นเร็พทีเลีย (Class Reptilia) ชั้นย่อยอะแน็พซิด้า (Subclass Anapsida) และอยู่ในอันดับ เทสทูดิเนส (Order Testudines) ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 อันดับย่อย คือ Suborder Cryptodira และ Suborder Pleurodira
Suborder Cryptodira
ในอันดับนี้จะประกอบไปด้วยเต่าที่สามารถหดหัวเข้าไปในกระดองได้ และพวกหัวใหญ่ ที่ไม่สามารถหดหัวเข้าไปกระดองได้ทั้งหมด สามารถแบ่งได้เป็น 10 ครอบครัวดังนี้
Superfamily Testudinoidea
- Family Chelydridae (Snapping Turtles) วงศ์เต่าตระกูลเอลิเกเตอร์ เป็นกลุ่มที่ดุร้ายและมีพฤติกรรมที่อยู่นิ่งเพื่อรอคอยเหยื่อเพื่อจับกิน ประกอบด้วย 3 ชนิด ใน 3 สกุล ลักษณะโดยทั่วไป คือ เป็นเต่าน้ำขนาดใหญ่ หัวใหญ่ทำให้ไม่สามารถหดหัวเข้าไปในกระดองได้ทั้งหมด ซึ่งเหมือนกันในแขนและขา หางยาว รูปร่างค่อนข้างประหลาด ในชนิด Chelydrids กระดองจะแบน การแพร่กระจายในชนิด Chelydrinae พบในแถบแถบ อเมริกาเหนือ ส่วนเต่าปูลู (Platysterninae) พบใน จีนและอินโดนิเซีย ในกลุ่มนี้มีเต่าน้ำที่ขนาดใหญ่ที่สุด คือ ชนิด Macrochelys จะมีน้ำหนักถึง 80 กิโลกรัม ส่วนที่อยู่อาศัย เต่าชนิด Chelydra serpentina อาศัยอยู่ในน้ำจืดและน้ำกร่อย ส่วน ชนิด Macrochelys จะอาศัยในบึง ทะเลสาบ และแม่น้ำ จัดเป็นเต่านักล่า กินอาหารจำพวกสัตว์ ได้แก่ ปลา หอย สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง หนอนต่างๆ ยกเว้นในเต่าแสน็พปิ้ง (Chelydra serpentina) ที่กินได้ทั้งพืชและสัตว์เต่าในตระกูลนี้ที่รู้จักกันดี คือ สแน็พปิ้งเอลิเกเตอร์ (Macroclemys temminckii)
- Family Emydidae (Pond Turtles/Box and Water Turtles) วงศ์เต่าน้ำจืด เต่าในครอบครัวนี้มีกระดองกลมรี เต่าน้ำจืดจะมีกระดองยาวไม่เกิน 20 cm ยกเว้น สกุล Pseudemys (Pseudemys concinna มีความยาวกระดอง 40 cm), และเพศเมียสกุล Graptemys และ Trachemys ส่วนในสกุล Graptemys ตัวผู้จะมีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย แพร่กระจายแถบยุโรป ในภูเขาประเทศรัสเซีย อเมริกาเหนือ ไล่ลงมาทางตอนใต้จนถึงตอนเหนือของบราซิล เป็นเต่าที่อาศัยในน้ำจืด หรือครึ่งบกครึ่งน้ำ แต่มีบางชนิดที่อาศัยอยู่บนบกมากกว่าอยู่ในน้ำ โดยเฉพาะช่วงอากาศที่มีความชื้นสูงจะไม่ลงน้ำเลย อาศัยตามที่ลุ่ม หนอง บึง แม่น้ำต่างๆ ทะเลสาบ มีบางสกุลเท่านั้นที่แตกต่าง เช่น ในสกุล Terrapene ยกเว้น T. coahuila จะอาศัยในน้ำกร่อย และ ชนิด Malaclemys terrapin จะอาศัยอยู่ตามชายฝั่ง เต่าในครอบครัวนี้ เมื่อโตเต็มวัยจะกินทั้งพืชและสัตว์ เป็นอาหาร ยกเว้นสกุล Emydoidea และ Deirochelys จะเป็นนักล่าที่กินสัตว์เป็นอาหาร ได้แก่พวกเต่านา ที่กินหอยและปู ส่วนสกุล Pseudemys เมื่อโตขึ้นจะกินเฉพาะพืชเท่านั้น ในวงศ์นี้มีทั้งหมด 140 ชนิด ตัวอย่างเต่าที่อยู่ในวงศ์นี้ที่เรารู้จักกันดี ได้แก่ เต่าจักร(Heosemys spinosa), เต่าหวาย(Heosemys grandis), เต่ากระอาน(Batagur baska baska), เต่าจัน(Pyxidea mouhotii) เต่าจาน(Batagur baska ranongensis), เต่าดำ(Siebenrockiella crassicollis), เต่าหับ(Cuora amboinensis), เต่านา(Malayemys subtrijuga), เต่าบัว(Hieremys annandalii) และเต่าญี่ปุ่น(Trachemys scripta elegans) เป็นต้น
- Family Testudinidae (Tortoises) วงศ์เต่าบก เต่าบกจะมีกระดองนูนสูง กลม หัวทู่ มีเกล็ดขนาดต่างๆคลุมชัดเจน ขาหน้าเป็นแท่งรูปกระบอก ส่วนขาหลังคล้ายขาช้าง ขาจะปกคลุมด้วยเกล็ดขนาดใหญ่ เล็บใหญ่และแข็งแรงซึ่งเกล็ดแข็งที่ขาหน้าจะช่วยป้องกันอันตรายต่างๆให้กับเต่า หัวและขา หดเข้าไปในกระดองได้ หลายชนิดมีเดือยอยู่ระหว่างขาหลังและโคนหาง ขาของเต่าบกจะไม่มีผังผืดทำให้ไม่สามารถว่ายน้ำได้ แต่ตรงกันข้ามกลับปีนเขาเก่ง เต่าบางชนิดอาศัยอยู่ในที่แห้งแล้งจึงทำให้มีความสามารถกักเก็บน้ำได้ดี สามารถรักษาสมดุลย์น้ำโดยไม่ต้องกินน้ำเป็นเวลานาน เต่าบกจะกินอาหารจำพวกพืชเป็นหลัก พวกผักหรือผลไม้ วงศ์เต่าบกมีประมาณ 37 ชนิด ส่วนในไทยมี 3 ชนิดคือ เต่าหก(Manouria emys) ได้แก่ หกดำและหกเหลือง , เต่าเหลือง(Indotestudo elongatus) และเต่าเดือยใน(Manouria impressa) นอกจากนี้เต่าต่างประเทศที่เรารู้จักกันดี ได้แก่ เต่าซูลคาตาร์(Geochelone sulcata), เต่าเรเดียตาร์(Geochelone radiata), เต่าเลพเพิร์ด(Geochelone pardalis), เต่าดาวพม่า(Geochelone platynota), เต่าดาวอินเดียและเต่าดาวศรีลังกา(Geochelone elegans), เต่าสไปเดอร์(Pyxis arachnoides), เต่าเรดฟุต(Geochelone carbonaria), เต่าอียิปต์(Testudo kleinmanni) และ เต่าอัลดาบร้า(Geochelone gigantea), เป็นต้น
- Family Geoemydidae (Bataguridae) (Asian River Turtles, Leaf and Roofed Turtles, Asian Box Turtles) เป็นเต่ากลุ่มที่มีกระดองกลมมน ไปจนถึง ยาวรี กระดองโค้งหรือแบนตามแต่ชนิด มีรูปร่างหลากหลายเนื่องจากมีจำนวนชนิดค่อนข้างมาก แพร่กระจายที่เอเชียตะวันออก อเมริกากลาง และตอนเหนือของอเมริกาใต้ สมาชิกส่วนใหญ่เป็นเต่าน้ำ มีบางชนิดที่เป็นเต่าครึ่งบกครึ่งน้ำ อาศัยในแหล่งน้ำจืด กินพืช หรือกินทั้งพืชและสัตว์เป็นอาหาร เต่าที่อยู่ในวงศ์นี้ ได้แก่ เต่าแบล็ค เบร็ซลีฟ(Geoemyda spengleri), เต่ามาเลเซียไจแอ้นท์(Orlitia borneensis), เต่าบราวน์วู้ด(Rhinoclemmys annulata) เป็นต้น เต่าในวงศ์นี้ไม่ค่อยคุ้นสำหรับคนไทยนักแม้จะพบแพร่หลายในทวีปเอเชียก็ตาม และก็ยังมีนักอนุกรมวิธานบางท่านที่จัดลำดับแตกต่างออกไปจากนี้เล็กน้อย แต่กระผมจะขอยึดตามของ Zug และ Frost ก็แล้วกันนะครับเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน มีสมาชิกทั้งหมด 23 สกุล รวม 73 ชนิด
Superfamily Trionychoidea
- Family Carettochelyidae (Pignose Turtles) เป็นเต่าที่มีแผ่นหนังหุ้มกระดอง ได้แก่ เต่าจมูกหลอดพบในนิกินี ทางตอนเหนือของออสเตรเลีย ลักษณะเด่นจะอยู่ตรงจมูกที่ยื่นออกมาคล้ายหลอด ความยาวกระดองประมาณ 55 เซนติเมตร พบที่นิวกินีตอนใต้ และออสเตรเลียเหนือ ในน้ำจืด ทะเลสาปและแม่น้ำ กินได้ทั้งพืชและสัตว์ แต่มักจะกินพืชมากกว่า อย่างเช่น เมล็ดพืช ผลไม้ รากไม้ ใบไม้ ในวงศ์นี้มีเพียงชนิดเดียว ได้แก่ Carettochelys insculpta
- Family Trionychidae (Softshell Turtles) เป็นพวกที่มีหนังหุ้มกระดอง เป็นเต่ากลุ่มที่มีกระดองอ่อน หรือที่รู้จักกันดีคือ ตะพาบน้ำนั่นเอง มีลำตัวแบนลง กระดองมีรูปร่างยาวรี เป็นรูปไข่ กินสัตว์เป็นอาหาร เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา หลายชนิดมีนิสัยดุร้าย ตะพาบน้ำทั่วโลกมีทั้งหมด 31 ชนิด ตัวอย่างตะพาบน้ำได้แก่ ตะพาบม่านลาย(Chitra chitra), ตะพาบน้ำ(Amyda cartilaginea cartilaginea), ตะพาบหัวกบ(Pelochelys cantorii) เป็นต้น
Superfamily Kinosternoidea
- Family Dermatemydidae (River Turtles) เป็นวงศ์ เต่าเมโสอเมริกัน ริเวอร์ ลักษณะเด่นคือ กระดองกลมรี โค้งเล็กน้อย หัวเล็ก ความยาวกระดองประมาณ 65 เซนติเมตร พบทางตอนใต้ของเม็กซิโกถึงตอนเหนือของฮอร์นดูราส์ อาศัยในแหล่งน้ำจืดแต่สามารถอยู่ที่น้ำกร่อยได้ เป็นเต่าน้ำขนาดใหญ่อีกตัวหนึ่ง กินอาหารจำพวกพืช แต่มีพฤติกรรมที่ออกหากินตอนกลางคืนโดยลอยคอเหนือน้ำเพื่อหาอาหาร วงศ์นี้มีสมาชิกเพียงชนิดเดียวคือ Dermatemys mawii
- Family Kinosternidae (Mud and Musk Turtles) เต่าที่อาศัยอยู่ตามโคลนจะจำศีลในฤดูแล้งและหนาว หากินตามก้นแหล่งน้ำและมักฝังตัวอยู่ในโคลนเป็นเวลานานๆ ขึ้นมาที่ผิวน้ำหรือบนบกน้อยมาก ลักษณะเต่าในวงศ์นี้ค่อนข้างหลากหลายและแต่ชนิดของเต่า ในสกุล Kinosterninae พบทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกา ป่าอเมซอน และสกุล Staurotypinae พบตามแหล่งน้ำจืด แถบคาบสมุทรคาริบเบียน แปซิฟิก และอ่าวเม็กซิโก กินอาหารได้ทั้งพืชและสัตว์ จำพวกสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง และหอย ในวงศ์นี้มี 3-4 สกุล และ 22-23 ชนิด มีสมาชิก เช่น เต่าสกอเปี้ยนหมัด(Kinosternon scorpiodes)
Superfamily Chelonioidea
- Family Cheloniidae (Sea Turtles) ได้แก่เต่าตนุ เต่าทะเลมีขาแบนเป็นใบพายเพราะดำรงชีพอยู่ในน้ำเกือบตลอดเวลา จะขึ้นมาบบกเฉพาะช่วงวางไข่เท่านั้น กินทั้งพืชและสัตว์เป็นอาหาร เช่น สาหร่ายทะเล ปู ปลา หอย และ แมงกะพรุน มีสมาชิกทั้งหมดเพียง 5 สกุลและ 7 ชนิดเท่านั้น เต่าในวงศ์นี้ที่รู้จักกันได้แก่ เต่าตนุ(Chelonia mydas) มีลักษณะปากบนไม่งุ้ม, กระ(Eretmochelys imbricata)ปากงุ้มเหมือนปากเหยี่ยว, เต่าจาระเม็ด(Caretta caretta gigas Deraniyagala, 1933) เป็นต้น
- Family Dermochelyidae (Leatherback Turtles) วงศ์ เต่ามะเฟือง เป็นเต่าทะเลที่มีแผ่นหนังแข็งหุ้มกระดอง เต่ามะเฟืองชนิด Dermochelys coriacea เป็นเต่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เต่าในวงศ์นี้กระดองจะไม่มีแผ่นเกล็ด แต่เป็นกระดูกชิ้นเล็กๆฝังตัวอยู่ใต้แผ่นหนัง ขาหน้ามีลักษณะเป็นใบพายขนาดใหญ่และยาว ปัจจุบันเต่ามะเฟืองเป็นเต่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อาศัยในทะเล กินสัตว์ทะเล เป็นอาหาร ในวงศ์นี้มีสมาชิกเพียงตัวเดียวเท่านั้น
Suborder Pleurodira
อันดับย่อยนี้เป็นอันดับย่อยของเต่าที่มีลักษณะคอยาวมาก จนไม่สามารถหดหัวเข้าไปในกระดองได้ จึงพับเก็บไว้ที่ด้านข้างกระดองแทน แบ่งออกเป็น 3 วงศ์ย่อย ได้แก่
- Family Chelidae (Austro-American Sideneck Turtles) เป็นเต่าที่มีคอยาว หรือเต่าคองู เก็บหัวและคอโดยการพับเข้าทางด้านข้างของกระดอง กระดองแบนและกลมรี และเป็นสีเข้มไม่มีสีสันที่สวยงาม กินอาหารจำพวกสัตว์ หอย ปู และปลา มีเพียงไม่กี่ชนิดที่กินพืชได้ ที่พบในแถบออสเตรเลีย นิวกินีและอเมริกาใต้ ลักษณะเป็นเต่าที่หัวเล็กและคอยาว มีจำนวนสมาชิกทั้งหมดประมาณ 40 ชนิด ใน 11 สกุล ตัวอย่างเต่าในสกุลนี้ คือ เต่าคองู (Chelodina longicollis) , เต่ามาตามาต้า(Chelus fimbriatus), เต่าคองูอเมริกาใต้(Hydromedusa tectifera) เป็นต้น
Superfam. Pelomedusoidea
- Family Pelomedusidae (Afro-American Sideneck Turtles) เป็นเต่าที่มีคอยาว เก็บหัวและคอโดยการพับเข้าทางด้านข้างของกระดอง กระดองกลมรี สีเขียวมะกอก อวัยวะบางอย่างไม่พัฒนาหรือใช้การได้ไม่ดี ได้แก่ กระดูกส่วนโพรงจมูก กระดูกชิ้น splenial และ ช่อง cervical ที่พบในแถบแอฟริกา มาดากัสการ์ และอเมริกาใต้ เคยมีผู้พบซากดึกดำบรรพ์ของเต่าในวงศ์นี้มีความยาวกระดองถึง 230 เซนติเมตรคาดว่าจะเป็นเต่าน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่สมาชิกในวงศ์นี้กลับมีขนาดที่หลากหลายตั้งแต่ 12 107 เซนติเมตร มีทั้งหมด 5 สกุล รวมทั้งสิ้นประมาณ 26 ชนิด แต่ไม่เป็นที่รู้จักเท่าไหร่นัก ชนิดของเต่าในวงศ์นี้ได้แก่ เต่าแอฟริกันฟอร์เรส(Pelusios gabonensis), เต่าเฮลเมท(Pelomedusa subrufa)
- Family Podocnemididae (Madagascan Big-headed and American Sideneck River Turtles) เต่าบิ๊กเฮดมาดากัสการ์ และเต่าคอยาวอเมริกา กระดองกว้าง และเพรียวซึ่งพัฒนามาเพื่อการว่ายน้ำ แพร่กระจายที่ แม่น้ำใน มาดากัสการ์ และตอนเหนืออเมริกาใต้ ในขณะยังเล็กจะกินอาหารจำพวกพืช แต่เมื่อโตขึ้น ก็จะจับพวกสัตว์ที่ว่ายน้ำเชื่องช้ากินแทน ตัวอย่างเต่าที่อยู่มีสมาชิก 3 สกุล ในวงศ์นี้ได้แก่ เต่ามาดากัสการ์บิ๊กเฮด(Erymnochelys madagascariensis), เต่าเรดเฮดริเวอร์(Podocnemis erythrocephala) และ เต่าเยลโล่-สปอต อเมซอนริเวอร์(Podocnemis expansa) เป็นต้น
By : นนทรี ปานพรหมมินทร์
ที่มา : siamreptile.com (http://www.siamreptile.com/origin/article003.html)ภาพประกอบ : อินเตอรืเน็ต