ตัวผู้และตัวเมีย
สิ่งแรกที่ต้องทำนั้นก็คือต้องมั่นใจว่าแมงมุมทั้งตัวผู้และตัวเมียของคุณนั้น อยู่ใน Species เดียวกัน, พร้อมที่จะผสม(โตเต็มที่แล้ว) และเพิ่งผ่านการลอกคราบมาได้ไม่นาน. ตัวเมียที่โตเต็มที่นั้นส่วนใหญ่จะลอกคราบเพียงแค่ปีละครั้งเท่านั้น นั่นเป็นสัญญาณที่ดี ที่จะบอกว่าแมงมุมตัวเมียของคุณนั้นโตเต็มที่ และพร้อมที่จะผสมแล้วนะครับ. แต่ถ้าแมงมุมตัวเมียที่จะนำมาผสมนั้นผ่านการลอกคราบมานานแล้ว (ประมาณ 6 เดือนหลังจากลอกคราบครั้งสุดท้าย) ก็มีโอกาสที่เธอจะไม่ผลิตถุงที่เอาไว้ใส่ไข่ได้.
สำหรับตัวผู้นั้นคุณจะรู้ได้เลยเมื่อมันพร้อมที่จะผสม มันจะมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายนิดๆหน่อยๆ ระหว่างตอนลอกคราบตอนเข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์. ตัวผู้นั้นลำตัวมักจะเล็กลง และส่วนขานั้นจะยาวเรียวขึ้น ถ้าคุณลองมองขาที่ใช้เดินด้านหน้าทั้ง 2 ขานั้น จะเห็นขอเกี่ยวเล็กๆ อยู่ ซึ่งปกติจะมีอยู่ในทุกสายพันธุ์ ขอเกี่ยวนั้นคือขอเกี่ยวที่เอาไว้ยึดเกาะเวลาผสมพันธุ์ มันจะใช้ขอเกี่ยวนั้นไปเกี่ยวไว้ที่เขี้ยวของตัวเมีย เวลาทำการ ดึ๋กๆ กัน (แหะๆ Rate X ฮะ กบว ไม่ให้ผ่าน.). เช่นเดียวกัน ถ้าคุณลองมองดูที่ pedipalps (ขาสั้นๆ คู่หน้าบริเวณปาก) บริเวนที่เป็นปลายเท้านั้นจะมีลักษณะเป็นเหมือนใส่ นวมเอาไว้ ซึ่งมันก็คือกระเปาะที่มันเอาไว้เก็บน้ำเชื้อนั่นเอง
ใยเก็บสเปิร์ม
ก่อนที่ตัวผู้จะพร้อมที่จะผสมพันธุ์ได้นั้น มันจะต้องสร้างใยที่เอาไว้เก็บน้ำเชื้อก่อน ปกติแล้วมันจะใช้เวลาสร้างใยอยู่ในช่วงไม่เกิน 2 สัปดาห์แรกของการลอกคราบเข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์ ลักษณะของใยที่สร้างขึ้นนี้ปกติมักจะมีรูปร่างเหมือนเปลญวน และจะสร้างอยู่บริเวณมุมๆ ของสถานที่เลี้ยง หลังจากนั้นมันจะเข้าไปม้วนๆ บิดๆตัวอยู่ข้างใต้ใยที่ทำขึ้น และมันจะเริ่มถูตัวเอง กับใยที่ทำขึ้น ที่มันทำอย่างนั้นก็เพื่อเป็นการเอาน้ำเชื้อไปติดเอาไว้ที่ไย เมื่อทำทั้งหมดเสร็จเรียบร้อย จะเห็นว่ามันจะเดินไปรอบๆ ใยของตัวเอง และถ้าคุณสังเกตดูดีๆ ที่กระเปาะเก็บน้ำเชื้อจะเห็นว่ามันใช้ตรงขอเกี่ยวนั้นเกี่ยวเอาไว้ที่ใย ที่มันทำนั้นคือมันกำลังเก็บน้ำเชื้อจากใยมาเก็บเอาไว้ที่ กระเปาะตรงขา ซึ่งมันจะเก็บไว้อย่างนั้นจนกว่าจะพบกับตัวเมีย และหลังจากที่เสร็จจากการเก็บน้ำเชื้อ จากใยเรียบร้อยแล้ว มันก็จะทำลายใยนั้นทิ้ง และขณะนี้แมงมุมของคุณก็พร้อมที่จะผสมพันธุ์ แล้วล่ะ
การผสมพันธุ์
สมควรจะเอาแมงมุมตัวผู้ที่จะทำการผสม ไปทำความคุ้นเคยกับตัวเมียก่อนเสมอ โดยจะต้องไม่มีตัวอิ่นๆ มาวุ่นวาย (งดมือที่ 3) คุณควรจะเอาตัวผู้มาวางไว้ด้านตรงข้ามกับตัวเมีย เพราะคุณคงไม่อยากให้ มันทำอะไรผิดพลาดหรอก ช่ายมะ? (แหมเดททั้งที). ครั้งแรกที่คุณเห็นตัวผู้เข้าไปในกรงของตัวเมีย คุณอาจสังเกตเห็นพฤติกรรมแปลกๆ ของตัวผู้ เพราะมันจะเริ่มที่จะมีอาการกระกระตุกที่บริเวณท้อง และบางครั้งอาจจะเอาขาหน้าและขาเล็กๆ ทุบลงไปที่พื้น และจะเริ่มย่างสามขุมเข้าใกล้ตัวเมียเรื่อยๆ และตัวเมียอาจจะตอบรับด้วยการทุบพื้นกลับ (โอ้ววววว.... ซาดิสม์...) และเมื่อขาของทั้งสองสัมผัสกันเป็นครั้งแรก (เหอะๆ มีลวนลาม) ตัวผู้จะเอาขาถูๆ เคาะๆ ที่ขาของตัวเมีย ไปเรื่อยๆ จนเมื่อตัวเมียมีท่าทางบอกว่า ยอมแล้ว....!!! (อย่าทำไรหนูเลยยย) แล้วตัวผู้กจะพยายาม เอาขอเกี่ยวไปเกี่ยวเข้ากับเขี้ยวของตัวเมีย เมื่อเกี่ยวได้สำเร็จ มันจะยกตัวเมียขึ้น (บางครั้งก็น่าทึ่งนะ เพราะตัวผู้นั้นจะตัวเล็กกว่าตัวเมียมากมาย). แล้วตัวผู้ก็จะเริ่มสอดกระเปาะเข้าไปในช่อง...ทางด้านบน ของตัวเมีย และเริ่มปล่อยน้ำเชื้อ... เอาล่ะ..เตรียมตัวจับแมงมุมตัวผู้ให้ดี (คงรู้นะว่าจะเกิด'ไรขึ้น) ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ใช้เวลาอยู่ในช่วงประมาณ 10 วินาที 1 ชั่วโมง (ค่อนข้างเร็วนะ ว่ามั๊ย?)
ในรูปแสดงถึงการจับคู่กันระหว่าง Aphonopelma bicoloratum ตัวผู้นั้นกำลังพยายามที่จะ จับตัวเมียแล้วเอาขอเกี่ยวไปเกี่ยวไว้ที่เขี้ยวของตัวเมีย เพิ่อที่มันจะได้ยกตัวเมียขึ้น เพิ่หารูที่ไว้ส่งเสปิร์มเข้าไป ในรูปยังแสดงให้เห็นถึงขนาดของแมงมุมทั้ง 2 ในรูปนี้ ตัวผู้เพิ่งได้เข้าไปในกล่องของตัวเมียเพียงแค่ 5 นาที
ถุงบรรจุไข่
ถึงขั้นตอนนี้ แมงมุมตัวเมียของคุณก็ไม่บริสุทธิ์แล้ว (ฮ่า ฮ่า ฮ่า!!!) สิ่งที่คุณควรทำอย่างยิ่งคือให้บำรุงตัวเมียนั้นให้เต็มที่เลยตลอดทั้งอาทิตย์ เธอจะต้องการพลังงานทั้งหมดที่เธอมีและหาได้ในการที่จะวางไข่ให้ผ่านไปได้ด้วยดี อีกประมาณ 1 เดือนข้างหน้า ส่วนท้องของเธอจะเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น แมงมุมส่วนมากจะใช้เวลาสร้างถุงบรรจุไข่ อยู่ในช่วงประมาณ 4 20 สัปดาห์ และแน่นอนนะครับว่า ไม่มีเวลาตายที่ตัวสำหรับช่วงการสร้างถุงเก็บไข่ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อันได้แก่ อุณหภูมิ, ความชื้น, สายพันธุ์ ฯลฯ สัญญาณที่บอกว่าใกล้จะได้เวลาสร้างถุงแล้ว จะเหมือนๆ กับสัญญาณที่บอกว่าจะลอกคราบนั่นแหละครับ ไม่ว่าจะเป็น สร้างใยออกมามากกว่าปกติ, เข้าไปอยู่ในหลุมและสร้างใยรอบตัวเอง และไม่ยอมกินอาหาร มาถึงจุดนี้ คุณไม่ควรไปรบกวนแมงมุมของคุณโดยเด็ดขาด ไม่ควรแม้แต่การให้อาหาร (ก็บอกแล้วให้บำรุง) และก็ได้แต่หวังว่าเธอจะดูแลถุงไข่ของเธอล่ะนะ และในขณะที่เธอดูแลถุงไข่อยู่นั้น ห้ามไปรบกวนเธออย่างเด็ดขาด!!! การไปรบกวนเธอนั้นจะทำให้เธอไปกิน หรือ ทำลายถุงไข่นั้นทั้งหมด (คุณต้องเศร้าแน่ๆ) ในรูปนี้ป็นรูป"ถุงไข่" ของ Haplopelma lividum ที่เห็นไม่ชัดเป็นเพราะถ่ายจากด้านนอกของ กล่องพลาสติกนะครับ ยังไงก็ตามคุณจะเห็นถึงขนาดของ ถุงไข่ เจ้าตัวนี้ผสมเมื่อเดือนกรกฏาคม และก็ไม่ได้สร้างถุงเก็บไข่เลยจนถึงเดือนกุมพาพันธ์ การฟักตัวนั้นไม่นานเลย ผมย้ายถุงไข่ออกมาหลังจากนั้น 4 สัปดาห์ ซึ่งในเวลานั้น อยู่ในช่วงเป็นตัวอ่อนขั้นที่ 2
การพัฒนาการของไข่
ช่วงเวลาที่ถุงไข่จะฟักตัวอยู่นั้น ส่วนมากจะอยู่ช่วงประมาณ 4 16 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม มันก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์, อุณหภูมิ, ความชื้น และหลายๆ อย่าง และสิ่งจะโผล่ออกมาจาก ถุงไข่ อาจเป็นตัวอ่อนที่เรียกว่า Nymph พวกมันจะมองดูเหมือนแมงมุมทั่วๆ ไป เพียงแต่ ตัวอ่อนจะเป็นสีขาวทั้งตัว ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่เราควรจะย้ายเอาตัวเมียออกมาแล้วสร้างที่อยู่ให้ใหม่ และควรทิ้งให้ตัวอ่อนทั้งหมดอยู่กับถุงไข่ของมันจนกว่าพวกมันจะลอกคราบแล้วเข้าสู่ช่วง Spiderling บางครั้งเจ้า Spiderling สามารถให้อยู่รวมกันได้ แต่ก็ยังต้องขึ้นอยู่กับสายพันธุ์อยู่ดี แต่เตือนตัวเอง เอาไว้เสมอนะครับ การกินพวกเดียวกันเองอาจเกิดขึ้น เมื่อถึงเวลาที่พวกมันสามารถกินอาหารได้ อย่างปกติ. เมื่อเราต้องการจะแยกเจ้า Spiderling ให้ใช้หลอดฟิล์มขนาด 35mm หรืออย่างอื่นที่ใกล้เคียงซึ่ง เป็นขนาดที่กำลังพอเหมาะที่จะเก็บ Spiderling จำนวนมากในบริเวณเคบๆ ได้นะครับ
ที่มา : siamreptile.com/origin/article033.html