นิยายเรื่องสุนัขและแมวที่หลงหาทางกลับบ้านเองได้ทั้งที่อยู่ห่างไกลเป็นพันกิโลเมตร คิดว่าท่านผู้อ่านคงเคยได้ยินมาบ้างไม่มากก็น้อย เรามักตั้งคำถามว่าสัตว์เหล่านนี้ทำได้อย่างไร แล้วมันทำได้จริงหรือ ถึงแม้นิยายเรื่องการหาทางกลับบ้านของสัตว์เหล่านี้จะถูกเล่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ความสำเร็จของมันอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด สัตว์บางตัวอาจจะโชคดีที่ไปถูกทางที่จะไปบ้าน เพราะทิศที่จะเดินทางกลับบ้านมีแค่ 4 ทิศ คือ เหนือ, ไต้, ตะวันออก และตะวันตก ถ้าโชคดีเลือกถูกทางกึงบ้าน และบางทีแมวตัวที่กลับมาบ้านอาจไม่ใช่แมวตัวที่หายไป จริง ๆ แล้วสุนัขและแมวมีความสามารถในการคิดแผนที่ภายใต้จิตสำนึกของมัน นกเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่สามารถนำตัวเองไปสู่เป้าหมายที่กำหนดได้ และการศึกษาวิธีการที่นกใช้ในการนำทางกลับบ้าน ก็มีการศึกษามาต่อเนื่องยาวนานหลายปี และคำตอบอยู่ในสมมติฐานข้างล่างนี้ ตรวจสอบภูมิประเทศโดยตรง เรียนรู้ หรือ จดจำ แผนที่ทางภูมิศาสตร์ สำรวจมุมและตำแหน่งของดวงอาทิตย์ (และบางทีอาจเป็นสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์) นำทางโดยอาศัยสนามแม่เหล็กโลก (โดยอาศัยความสามารถพิเศษในการรับรู้คลื่นแม่เหล็กที่อ่อนมาก ๆ โดยอาศัยตัวรับที่ผิวหนังบริเวณจะงอยปาก) สุนัขและแมวสามารถหาทางกลับบ้านเองได้หรือไม่ คำตอบคือถ้าที่ห่างไกลนั้นเป็นที่ที่สุนัขและแมวคุ้นเคยอยู่ สัตว์หาทางกลับบ้านเองได้แน่นอน เพราะสุนัขและแมวมักไปเที่ยวไกล ๆ แล้วกลับบ้านเอง แต่ถ้าทิ้งสัตว์ไว้ในที่ ๆ ไม่คุ้นเคยและไกลมาก ๆ มันจะหาทางกลับบ้านเองได้หรือไม่ มีการศึกษาเรื่องการหาทางกลับบ้านของสัตว์เลี้ยง โดยนักจิตวิทยาชาวอังกฤษ วัตถุประสงค์ในการศึกษาเพื่อค้นคว้าขบวนการทางจิต ที่อาจซ่อนอยู่ในการหาทางกลับบ้านของสัตว์เลี้ยงเมื่อหลงทางไปในที่ไกล ๆ ผลการศึกษาออกมาว่าสุนัขสามารถหาทางกลับบ้านเองได้ แต่วิธีการที่สุนัขใช้ยังไม่สามารถอธิบายได้ เนื่องจากผลการศึกษาอาจละเว้นข้อเท็จจริงบางอย่างโดยไม่พูดถึงในงานวิจัย เช่น เขารู้ได้อย่างไรว่าสุนัขไม่เคยไปในจุดเริ่มต้นปล่อยสุนัขมาก่อน สุนัขจดจำเส้นทางได้โดยสุนัขไม่ได้ถูกปิดตาหรือจำกัดให้อยู่ในที่ที่ไม่สามารถมองเห็นเส้นทางได้หรือเปล่า หรือให้สุนัขจดจำเส้นทางโดยการดมกลิ่นหรือฟังเสียง สุนัขถูกปล่อยให้หาทางกลับโดยปล่อยจากจุดใกล้แล้วค่อยปล่อยไกลออกไปเรื่อย ๆ หรือไม่ ฯลฯ การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ทุกสิ่งจะต้องสามารถอธิบายได้และต้องชัดเจน ต้องอธิบายได้ว่าสัตว์จดจำแผนที่ไว้ในสมองได้อย่างไร สันชาติญาณป่าเป็นแรงผลักดันให้สัตว์หาทางกลับบ้านและอาหาร สุนัขที่หลงทางหากหาทางกลับบ้านไม่ได้ก็เท่ากับสุนัขอาจต้องตาย การหาทางกลับบ้านจึงเป็นความท้าทายของสุนัขที่ต้องหาแหล่งอาหารและที่พักเพื่อความอยู่รอด ยีนที่ควบคุมสันชาติญาณป่าอาจถ่ายทอดทางพันธุกรรมมา สุนัขป่ามักหาทางไปยังแหล่งใหม่ ๆ ได้ในอาณาเขตที่มันหากินอยู่ เป็นไปได้ว่าสุนัขอาศัยสิ่งที่สังเกตได้เช่นต้นไม้สูง หรือกลิ่นเป็นเครื่องนำทาง ซึ่งอาจไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นในบางครั้งสุนัข และ แมวหาทางได้อย่างไร - การหาทางอาจเหมือนนกที่อาศัยทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวในการนำทาง เช่น - แผนที่ที่อยู่ในสมองสัตว์ - ความอยู่รอดและการสำรวจอาณาเขตหรือถิ่นที่อยู่ - ความสามารถในเรื่องการดมกลิ่น - การได้ยิน เช่น เสียงน้ำไหล - สนามแม่เหล็ก ซึ่งสุนัขอาจมีบางส่วนของสมองที่สามารถรับสนามแม่เหล็กอ่อน ๆ ได้เหมือนนก - ตำแหน่งของดวงอาทิตย์ แตกต่างกับของนกเพราะสุนัขมักเดินทางกลางคืนหรือเวลาที่แสงน้อย สี่อย่างแรกได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสุนัขและแมวเลี้ยงมีความสามารถใช้ได้ โดยมันสามารถที่จะไปและกลับได้เองในทางเดิมทางเดียวกับขาไป หรือเป็นทางใหม่คนละทางกับขาไป แต่การที่ถูกทิ้งในระยะทางไกล ๆ สุนัขและแมวสามารถหาทางกลับได้หรือไม่ยังน่าสงสัย เพราะเรายังไม่ทราบว่าสัตว์เลี้ยงสามารถดูตำแหน่งดวงอาทิตย์ และ อาศัยสนามแม่เหล็กเป็นเครื่องนำทางได้เช่นเดียวกับนกหรือไม่ คำตอบนี้ยังไม่สามารถตอบได้ การจะตอบคำถามได้คงต้องมีการศึกษาที่อธิบายถึงการหาทางกลับบ้านจากที่ไกล ๆ ของสัตว์เลี้ยงแสนรักให้ได้ สัตว์เลี้ยงที่ถูกปล่อยในที่ไม่ไกลนักและในสถานที่ไม่คุ้นเคยเสี่ยงต่อการที่จะหลงทางและตายเป็นอย่างมาก อย่าพยายามทดลองกับสัตว์เลี้ยงของท่านดีกว่าครับ เพราะจากประสบการณ์ของผู้แปลเองก็เคยพบว่าสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะแมวที่เจ้าของไม่ได้ใส่กรงมาแล้วเกิดหลุดไป ไม่เคยเห็นกลับบ้านได้เอง
ที่มา : เว็บ HONDADOG และ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ภาพประกอบ : อินเตอร์เน็ต