น้ำตาในคนนั้นสามารถบ่งบอกอะไรได้หลายอย่างโดยเฉพาะอารมณ์และความรู้สึกเช่นโกรธ เสียใจ หรือแม้กระทั่งดีใจตื้นตันใจ แต่ในสุนัขนั้นน้ำตาสามารถบ่งบอกโรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นในตาสุนัขได้ ตั้งแต่สีเช่น สีน้ำตาล สีเขียว สีขาวขุ่น หรือสีใส สิ่งเหล่านี้บ่งบอกถึงลักษณะการติดเชื้อ โรคหรือเป็นสิ่งที่จะประกอบการช่วยวินิจฉัยโรคตาได้ นอกจากนั้นปริมาณน้ำตาของสุนัขยังเป็นข้อมูลในการวินิจฉัยโรคต่างๆ ได้ สำหรับเครื่องมือในการวัดปริมาณน้ำตาที่ปัจจุบันถือเป็นมาตรฐานยอมรับกันทั่วไปคือSchirmer tear test (STT) เป็นกระดาษแผ่นบางชิ้นเล็กสอดเข้าไปบริเวณเปลือกตาล่างทิ้งไว้ 1 นาทีแล้วดูว่าน้ำตาซึมเข้ามาที่กระดาษกี่มิลลิเมตร
STT > 15 มิลลิเมตร เท่ากับปกติ STT 10-15 มิลลิเมตร เท่ากับว่ามีแนวโน้มเป็นโรคตาแห้งSTT < 10 มิลลิเมตร เท่ากับเป็นโรคตาแห้ง สำหรับกรณีมากกว่า 20-25 มิลลิเมตรจะถือว่ามากไปจนทำให้เกิดโรค แต่ก็ขึ้นอยู่กับอาการของสุนัขด้วยเช่นถ้าสุนัขมีน้ำตาไหลมากร่วมกับหรี่ตาหรือตาแดงมากนั่นอาจเป็นปัญหากระจกตาเป็นแผล กระจกตาอักเสบได้ แต่ถ้าสุนัขมีน้ำตาไหลมากด้วยไม่มีปัญหาตาแดงไม่มีอาการหรี่ตาน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นน้ำตาใสๆ ร่วมกับมีคราบติดบริเวณร่องจมูกเราสามารถแบ่งปัญหานี้ออกเป็น 2 สาเหตุ 1. มีการผลิตน้ำตามากเกินไป เช่นมีการระคายเคืองเนื่องจากขนตาขึ้นผิดที่ก็เป็นไปได้ 2. มีการผลิตน้ำตาเท่าเดิมแต่การระบายออกไม่ดีเช่นมีการอุดตันของท่อน้ำตา ท่อน้ำตาตีบ ท่อน้ำตาอักเสบ หรือเป็นโรคมาแต่กำเนิด กรณีที่มีปัญหาน้ำตาน้อยเกินกว่าปกติวัด STT ได้ 10 มิลลิเมตร ต่อ 1 นาที วินิจฉัยว่าเป็นโรคตาแห้งซึ่งอาการส่วนใหญ่สุนัขจะมีขี้ตาเยอะมาก ขี้ตาแห้งกรัง เช็ดขี้ตาให้สุนัขแล้วสักพักก็เป็นอีก หรือสุนัขมีปัญหาตาแดงมานานมาก กระจกตาขาวขุ่น มีเม็ดสีดำ น้ำตาลขึ้นที่กระจกตา อาการที่กล่าวมาข้างต้นเป็นอาการของสุนัขที่เป็นโรคตาแห้ง สาเหตุส่วนใหญ่ได้แก่ระบบภูมิคุ้มกัน (immune mediated) สายพันธุ์ (breed predisposing) พันธุกรรม (genetic) การติดเชื้อ (infection) อายุ (aging) ดังที่กล่าวมาข้างต้น STT สามารถวัดปริมาณน้ำตาในสุนัข และเป็นเครื่องมือสำคัญที่ได้บอกว่าดวงตาของสุนัขนั้นมีปัญหาหรือไม่ ถ้ารู้สึกว่าสุนัขของท่านเริ่มมีปัญหาที่ดวงตาอย่าลืมนึกถึงการวัดน้ำตาด้วย STT นะคะ
ที่มา และ ภาพประกอบ : โรงพยาบาลสัตว์ ทองหล่อ