มีคนไทยน้อยคนที่รู้จักว่าแมวไทย พันธุ์แท้นั้นมีลักษณธรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรแมวที่รู้จักพบเห็นกันทั่วๆไปอาทิ ลายเสือ แต้มขาวดำ หรือพวกตาสีเหลืงตัวค่อนข้างใหญ่ เหล่านี้ไม่ใช่แมวไทย ส่วนใหญ่เชื่อกันว่าเป็นแมวจีนหรือแมวจากที่อื่นติดเรือมาในการค้าขายสมัยโบราณ ทว่าแมวไทยพันธุ์แท้นั้นกลับไปมีชื่อเสียงโด่งดัง และ ได้รับความนิยมเลี้ยงกันมากในต่างประเทศมากกว่าในเมืองไทยถิ่นกำเนิดของมันเองเสียอีก ทั้งได้รับการยกย่องจากทั่วโลกว่าเป็นพันธุ์อันเลิศพันธุ์หนึ่งในโลก และ มีความประหลาดมหัศจรรย์ยิ่งกว่าแมวใดๆ
เมื่อปี พ.ศ. 2427 ชาวอังกฤษชื่อนายโอเวน กูลด์ กงสุลอังกฤษประจำกรุงเทพฯ ได้นำแมวไทยตัวผู้และตัวเมียคู่หนึ่งจากประเทศไทยไปฝากน้องสาวที่อังกฤษ อีกหนึ่งปีต่อมาแมวคู่นี้ถูกส่งเข้าประกวดในงานประกวดแมวที่ The Crystal Palace กรุงลอนดอน ผลปรากฏว่าได้ที่หนึ่ง ทำให้ชาวอังกฤษพากันตื่นเต้นเลี้ยงแมวไทยกันมากขึ้นจนถึงขั้นตั้งเป็นสโมสรแมวไทย เมื่อปี พ.ศ.2443มีชื่อว่า The Siamese Cat Clubs ต่อมาในปี พ.ศ.2471 ก็มีการตั้งสมาคมแมวไทยแห่งจักรวรรดิอังกฤษ หรือ The SiameseCat Society of the British Empire ขึ้นอีกสมาคมหนึ่ง
แมวไทยที่นายโอเวน กูลด์ นำไปจากเมืองไทยนั้น มีแต้มสีครั่งหรือ สีน้ำตาลไหม้ที่บริเวณหน้า หูสองข้าง เท่าทั้งสี่ หางและอวัยวะเพศทั้งตัวผู้ และตัวเมีย รวมเก้าแห่ง นับเป็นแต้มสีที่อยู่ในตำแหน่งอันเหมาะเจาะจนเหลือเชื่อ แตกต่างจากแมวพันธุ์อื่นที่มักมีแต้มเลอะเทอะไม่เรียบร้อย และ เมื่อนำแมวไทยไปผสมกับแมวพันธุ์อื่น ก็ได้แต้มสีตามร่างกายตามตำแหน่งเดียวกันเสมอ แต่รูปร่างจะไม่สง่างานเท่าและอุปนิสัยจะไม่ตกทอดไปยังแมวลูกผสมด้วย
นอกจากความประหลาดในเรื่องแต้มสีนี้แล้ว รูปร่างของมันก็น่ารักไม่ใหญ่เทอะทะเกินไป มีความงามสง่า และ มีขนสั้นแน่นอ่อนนุ่มไปทั้งเรือนร่าง ทั้งยังมีนัยตาสีฟ้าสดใสลึกซึ้งเหมือนกับตาฝรั่งซึ่งแมวอื่นไม่มี แมวไทยชนิดนี้เป็นแมวไทยพันธุ์แรกที่ฝรั่งรู้จัก จึงมักเรียนกันทั่วไปว่า Siamese Cat หรือ Seal Point (แมวแต้มสีครั่ง) ส่วนในสมุดข่อยโบราณของไทยให้ชื่อ แมวไทยลักษณะนี้ว่า "วิเชียนมาศ" พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเป็นผู้มอบแมววิเชียรมาศนี้ให้กับนายโอเวน กูลด์ และต่ามาทรงเห็นว่าแมวไทย เป็นสัญลักษณ์ที่สามารถทำให้ประเทศทั่วโลกรู้จักประเทศไทยดีขึ้น จึงได้พระราชทานแมวไทยให้ประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ เช่น อเมริกา ในปี พ.ศ.2433 จากผลงานของพระองค์ทำให้แมวไทยและประเทศไทยมีชื่อเสียงไปทั่วโลกในสมัยนั้น คุณสมบัติสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้แมวไทยเหนือกว่าแมวอื่นใดในโลกก็ คือ อุปนิสัยของแมวไทย แมวไทยมีความฉลาดรักบ้าน รักเจ้าของ มีความเป็นตัวของตัวเอง รู้จักคิด รู้จักประจบ และที่ฝรั่งยกย่องแมวไทยมากที่สุดก็คือ ความรักอิสรภาพของตัวเองเป็นชีวิตจิตใจ อิสระที่จะไปไหนก็ได้ตามใจชอบ อิสระที่จะดื่มและกินเมื่อกระหายหรือหิว อิสระเสรีภาพเป็นสิ่งที่แมวไทยถือเป็นบุคลิกประจำตัว และด้วยสิ่งนี้เองที่ทำให้แมวไทยเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักมากที่สุดในโลก
แมวไทยจึงเป็นแมวที่ต้องเลี้ยงอย่างเป็นเพื่อน มันจะอยู่เฉพาะกับเจ้าของที่ให้ความรักให้ความเป็นเพื่อนกับมันเท่านั้นเป็นที่น่าประหลาดว่าการผสมพันธุ์ระหว่างแมวไทยกับแมวต่างชาตินั้น แม้ว่าจะได้แมวลักษณะรูปร่างหรือสีแบบแมวไทย แต่จะไม่ได้อุปนิสัยของแมวไทยไปด้วย นอกจากจะผสมระหว่างแมวไทยด้วยกันจึงจะคงอุปนิสัย สีสัน รูปร่างต่างๆ ไว้ได้อย่างครนบถ้วน อันที่จริงแล้วแมวไทยมิใช่จะมีเพียงแมววิเชียรมาศ ตามหลักฐานในสมุดข่อยโบราณได้กล่าวถึงแมวไทย ไว้ถึง 23 ชนิด เป็นแมวดี (แมวให้คุณ) 17 ชนิด และแมวร้าย (แมวให้โทษ) 6 ชนิด ซึ่งในปัจจุบันนี้แมวให้คุณซึ่งเป็นแมวไทยพันธุ์โบราณแท้ๆ นั้นได้สูญพันธุ์ไปแล้วถึง 13 ชนิด เหลือให้คนรุ่นเราได้ชื่นชมเพียง 4 ชนิดเท่านั้น
เรียบเรียงโดย : farmthaionline.com ข้อมูลจาก : การเลี้ยวแมว (บัณฑิตย์ สุริยพันธ์)ภาพประกอบจาก : อินเตอร์เน็ต