คนไทย ทุกหมู่เหล่ารู้รักความสามัคคี ประชาชนไทย รักสงบ
"...ประเทศของเรารักษาเอกราช อธิปไตยและอิสระภาพให้ สมบูรณ์มั่นคงมาได้จนถึงทุกวันนี้ เพราะคนไทย ทุกหมู่เหล่ารู้รักความสามัคคี และรู้จักทำหน้าที่ของแต่ละฝ่ายให้ประสานส่งเส ริมกัน เมื่อทุกคนมุ่งใจปฏิบัติดังนี้ ความถูก ต้องเรียบร้อย ความพัฒนาก้าวหน้า และความมั่นคง เป็นปึกแผ่นจึงบังเกิดขึ้น..." พระบรมราโชวาท ในพีธีถวายสัตย์ปฏิญาณ และสวนสนามทหารรักษาพระองค์ณ ลานพระราชวังดุสิต 3 ธันวาคม 2534 "...ประเทศชาติกำลังพัฒนาในทุกด้านและต้องการ ความสามัคคีความเรียบร้อย ผลดีทั้งปวงดังกล่าวจะ เกิดขึ้นได้ ด้วยประชาชนมีหลักของใจอันมั่นคง มีศรัทธาและปัญญาอันถูกต้อง ปฏิบัติตนอยู่ในทาง ที่เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม..." พระบรมราโชวาท พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในการประชุมใหญ่ ของสมาคมพุทธศาสนาทั่วราชอาณาจักร ณ จังหวัดกาฬสินธุ์ 17 ธันวาคม 2512 "...สามัคคีหรือการปรองดองกันไม่ได้หมายความว่าคน หนึ่งพูดอย่างหนึ่งคนอื่นต้องพูดเหมือนกันหมด ลงท้ายชีวิตก็ไม่มีความหมาย ต้องมีความแตกต่างกัน แต่ต้องทำงานให้สอด คล้องกัน แม้จะขัดกันบ้างแต่ต้องสอดคล้องกัน..." พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิตตาลัย 4 ธันวาคม 2536 "...ความสามัคคีปรองดองเป็นอันหนึ่งอันเดียว กับความ รักใคร่เผื่อแผ่ช่วยเหลือกันฉันญาติพี่น้องสอง ประการนี้ คือ คุณลักษณะสำคัญของไทย ที่ช่วยให้ชาติบ้านเมืองอยู่รอดเป็นอิสระ และเจริ ญมั่นคงมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน..." พระราชดำรัสพระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2532 "...ทุกๆคนในชาติ ย่อมมีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติ ถ้า แต่ละคนต่างปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เป็นผลดีที่ สุดที่จะกระทำได้ ด้วยความรักชาติและมีความสามัคคีกลมเกลียวกัน แล้วชาติของเราจะเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น..." พระบรมราโชวาท ในพีธีถวายสัตย์ปฏิญาณ และสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต 3 ธันวาคม 2504 "...ความสามัคคี เป็นคุณสมบัติประจำตัวของคนไทย ที่ได้ อบรมสืบทอดกันมาแต่บรรพบุรุษโดยไม่ขาดสาย ทั้งนี้ เพราะคนไทยตราบตระหนักว่าหมู่ คณะที่มีสามัคคีแน่นแฟ้นสมบูรณ์ย่อมมีกำลังกล้า แข็งทั้งในการคิดและการปฏิบัติ..." พระบรมราโชวาท พระราชทานในการประชุมใหญ่ สามัคคีสมาคม 26 กรกฎาคม 2534 "...ตามประวัติศาสตร์ของเราจะเห็นได้ว่า คราวใด ที่ชาวไทยมีความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ชาติก็รอดพ้นจากภัยพิบัติสู่ความเจริญรุ่งเรือง แต่ คราวใดที่ขาด ความสามัคคีกลมเกลียวกัน ก็ต้องประสบเคราะห์กรรมทั้ง ชาติ..." พระบรมราโชวาท ในพีธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต 3 ธันวาคม 2505 "...ความสามัคคีนี้ เป็นคุณธรรมสำคัญประการหนึ่ง ซึ่งหมู่ ชนผู้อยู่ร่วมกันจำเป็นต้องมี ต้องถนอมรักษา และต้องนำมาใช้อยู่สม่ำเสมอ เนื่องด้วยสรรพกิจการงานที่เป็นส่วนรวมทุกด้าน ทุกระดับ ต้องอาศัยบุคคลหลายฝ่ายร่วมกันทำกิจกรรม พระราชดำรัส ในการเสด็จออกมหาสมาคมเนื่องในพระราชพีธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2530 ประชาชนทั้งชาติรักสามัคคีกัน เพราะคนไทยไม่แตกแยก รักกันมานานแล้วรักแผ่นดินไทย