เพื่อให้ได้ลูกแมวที่สมบูรณ์แข็งแรงน่าเลี้ยงดู จำเป็นต้องผ่านการคัดเลือกในด้านรูปร่าง หน้าตา รวมไปถึงความสมบูรณ์ครบถ้วนของอวัยวะต่าง ๆ ว่าสามารถนำมาเลี้ยงแล้วจะเติบโตให้ลูกหลานต่อไปได้ดีตามต้องการ เนื่องจากมีแมวหลายพันธุ์ ทั้งแมวไทยและแมวพันธุ์ต่างประเทศ ความแตกต่างอย่างแรกก็คือ เรื่องขน แมวไทยขนสั้น แมวพันธุ์ต่างประเทศ เช่น พันธุ์เปอร์เชีย ขนยาวต้องการดูแลแปรงขนส กำจับเห็บหมัด หรือดูแลทำความสะอาดขนที่หลุดร่วงในบ้านบ่อย ๆ จึงต้องถามตัวเองและคนในบ้านว่ามีเวลาดูแลเรื่องนี้หรือไม่ เรื่องต่อไปก็คือจะเลือกตัวผู้หรือตัวเมีย แมวตัวผู้นั้นถ้าเลี้ยงไว้ตัวเดียวก็มักจะก่อความรำคาญหรือรบกวนบาง คือมักจะเที่ยวเก่งชอบกัดกับแมวอื่นและชอบเยี่ยวรดสิ่งของเครื่องเรือนเครื่องใช้ในบ้าน แต่ถ้าตอนเสียแล้วนิสัยบางอย่าง เช่น การเที่ยวเตร่ ก้าวร้าวก็จะลดลง ซึ่งถ้าจะตอนก็ต้องพาไปหาหมอ สำหรับกฎทั่วไปในการตอนแมวขนสั้นสะดวกกว่าแมวขนยาว และอาจทำเองได้หากพอมีความรู้อยู่บ้าง สำหรับแมวตัวเมียคนส่วนมากชอบเลี้ยงมากกว่าตัวผู้ เพราะแมวตัวเมียนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงที่เป็นเพื่อนก็ได้ พอไว้ใจได้ว่าจะอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนไม่เที่ยวเตร่จะออกไปเที่ยวก็เฉพาะเวลาเป็นสัด ส่วนดีของแมวตัวเมียนอกจากนิสัยดังกล่าวแล้วก็คือ จับหนูเก่ง และจะเลี้ยลูกของตัวเองอย่างดีไม่ทอดทิ้ง ถ้าจะซื้อหาลูกแมวพันธุ์แท้ ควรจะได้เห็นพ่อแม่พันธุ์ด้วยว่ามีลักษณะเช่นไร เป็นพันธุ์แท้ที่ต้องการจริงหรือไม่ เพราะลูกแมวเมื่อยังเล็กอยู่จะพบว่ามีลักษณะที่คล้าย ๆ กัน ไม่สามารถแยกได้อย่างชัดเจนว่าเป็นพันธุ์แท้จริงหรือไม่ ต่อเมื่อซื้อหาไปเลี้ยงแล้วอาจพบว่าได้ถูกหลอกจากผู้ขายก็มี หาได้เป็นพันธุ์แท้ที่ต้องการไม่ ทั้งนี้คนกลางซึ่งเป็นผู้ขายเองก็ไม่ได้รู้อย่างแท้จริงว่าลูกแมวที่นำเอามาขายให้นั้น พ่อ, แม่เป็นพันธุ์อะไร เพราะไม่มีพันธุ์ประวัติแสดงไว้ให้ทราบเป็นหลักฐาน ดังนั้นหลักในการคัดเลือกแมวก็คือแหล่งหรือที่มาของแมวตัวนั้น ๆ ไม่ว่าจะมาจากบ้านคนหรือวัด หรือจากฟาร์มต่าง ๆ จนกระทั่งมาจากต่างประเทศ เหตุที่ต้องพิจารณาเรื่องเหล่านี้ก็เพราะว่า จะได้รู้ถึงเทือกเถาเหล่ากอของแมวด้วยตาว่าน่าเชื่อถือแค่ไหนยิ่งเป็นพันธุ์แท้ด้วยแล้วการได้รู้จักพ่อแม่นับเป็นส่วนช่วยในการตัดสินใจเลือกหามา นอกจากนี้ยังสามารถเห็นถึงสภาพการเลี้ยงดูความเป็นอยู่ต่าง ๆ แมวตัวอื่น ๆ ในที่เดียวกันมีสภาพความเป็นอยู่อย่างไร เมื่อได้ทราบที่ที่จะได้ไปคัดเลือกซื้อหาลูกแมวและศึกษาให้เข้าใจถึงลักษณะพันธุ์แท้ของแมวที่มีลักษณะถูกต้องตามมาตรฐานของพันธุ์ต่าง ๆ จนเข้าใจดีพอสมควรแล้ว จากนั้นก็เป็นการคัดเลือกเอาตัวลูกแมวที่มีลักษณะสมบูรณ์ แข็งแรง มีสุขภาพดี เช่น มีดวงตาแจ่มใสเป็นประกายชัดเจนแวววาวน่ารัก ไม่มีขี้ตาเกรอะกรัง ไม่มีเปลือกเยื่อตาเหลื่อมลงมาให้เห็น ภายในหูควรสะอาดไม่มีหมัดไรปรากฏอยู่ ซึ่งจะทำให้ลูกแมวเป็นโรคหูอักเสบหรือเป็นโรคผิวหนังที่ใบหู คัดเอาตัวที่จมูกขึ้น ไม่มีน้ำมูกไหลซึมออกมา ถ้ามีขี้มูกหรือน้ำมูกเกรอะกรังติดอยู่แสดงว่ามีอาการเป็นหวัดเรื้อรัง ภายในปากและเหงือกของลูกแมวไม่มีการอักเสบหรือบวม ลูกแมวที่เป็นโรคพยาธิสุขภาพเสื่อมโทรม มักท้องป่อง เยื่อตาเยื่อปากซีด อ่อนเพลีย ไม่แข็งแรง แคระแกร็น ขนหยาบกระด้าง น้ำหนักตัวน้อย ตัวเล็กและดูผอมไม่อ้วนท้วนสมบูรณ์หรือเห็นกระดูกสันหลังโผล่เห็นได้ชัด เหล่านี้ไม่ควรคัดเลือกเอามา สิ่งสุดท้ายแต่มีความสำคัญที่ต้องพิจารณาก็คือ เรื่องของอารมณ์ ลูกแมวที่รื่นเริง แจ่มใส ไม่ตื่นตกใจง่าย มีความสนอกสนใจ มีความสนอกสนใจเมื่อหยอกล้อ แสดงว่ามีความกระตือกระตือต้นไม่ซึมเซา เมื่อจับอุ้มดูมีความเป็นมิตรเข้าหาคน น่าเลี้ยงดูมากกว่าตัวที่ฉุนเฉียว โกรธง่ายหงุดหงิดตลอดเวลาเมื่อถูกตัวอื่นแย่งอาหารหรือชวนเล่น ก็ไม่ควรเลือกมาเลี้ยงเช่นกัน สำหรับอายุของลูกแมวที่จะนำมาเลี้ยง ในขั้นต้นควรเป็นลูกแมวภายหลังจากการหย่านมแล้ว คือมีอายุตั้งแต่ 8 ถึง 10 อาทิตย์ เพราะสามารถจะฝึกสอนให้คุ้นเคยกับคนในครอบครัวและกินอาหารที่จะให้กินต่อไปได้ง่าย มีปัญหาน้อยกว่านำแมวที่โตแล้วมาเลี้ยง เมื่อนำลูกแมวมายังที่พักหรือบ้านแล้ว ไม่ควรให้เด็ก ๆ มาอุ้มหรือจับเล่นแรง ๆ อาจจะทำให้กระดูกสันหลังลูกแมวหักได้ถ้าลูกแมวตกจากมือเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ การจับแมวที่ถูกต้องควรใช้มือข้างหนึ่งข้างใดช้อนลงใต้อกแมว และมืออีกข้างหนึ่งจับแตะอยู่บนหลังแมว การอุ้มลักษณะนี้จะทำให้ลูกแมวรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย
เรียบเรียงโดย : farmthaionline.com ข้อมูลจาก : การเลี้ยวแมว (บัณฑิตย์ สุริยพันธ์)ภาพประกอบจาก : อินเตอร์เน็ต