แมวส่วนมากที่มีเห็บหรือหมัดมากจะมาจากเจ้าของที่ไม่ได้ดูแลเท่าที่ควร เห็บเป็นตัวนำโรคที่ร้ายแรงงหลายชนิดมาสู่สัตว์ เช่น ดูดเลือดทำให้ซูบซีด โลหิตจาง นำโรคพยาธิในเม็ดเลือดมาแพร่ เป็นโรคผิวหนังอักเสบและคันมากเห็บในหูทำให้เกิดอาการอักเสบของในช่องหูได้ เห็บมีระยะการเจริญเติบโตตามวงจรชีวิตของมันอยู่ 4 ระยะคือ เริ่มแรกจากระยะเป็นไข่อยู่บนพื้นดินตามสนามหญ้าก่อน มันจะฟักตัวออกเป็นระยะตัวอ่อนตัวเล็ก ๆ มีสีแดง เมื่อแมวผ่านมาจึงจะกระโดดเกาะและไต่ขึ้นไปหากินตามตัวแมว แล้วพัฒนาตัวเองเข้าสู่ระยะวัยรุ่น มีขนาดตัวโตขึ้น ดูดกินเลือดแมวต่อไประยะหนึ่งจึงเจริญเติบโตเต็มที่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์พร้อมที่จะผสมพันธุ์เพื่อแพร่ลูกหลานได้ ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นเห็บอยู่ 2 ประเภท พวกหนึ่งตัวเล็ก ๆ แบน ๆ สีน้ำตาล ส่วนอีกพวกหนึ่งโตบวมเป่งสีทองคล้ายลูกหยี ทั้งคู่เป็นชนิดเดียวกันเพียงแต่พวกแรกเป็นตัวผู้ และพวกหลังคือตัวเมียที่กินเลือดมีไข่เต็มท้อง พร้อมที่จะกระโดดจากตัวแมวลงไปวางไข่ในดิน ดังนั้นพวกที่ชอบจับเห็บจากผิวหนังหมาแมวไปบีบโดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเมียลงบนพื้น ก็ยังเท่ากับเป็นการเผยแพร่ไข่เห็บออกไปอย่างดี ฉะนั้นเมื่อจับเห็บได้ควรหย่อนลงไปในขวดที่ใส่น้ำมันเอาไว้เห็บก็ตายแล้ว และป้องกันการกระจายของไข่ได้อีกด้วย เราสามารถป้องกันและกำจัดเห็บได้โดยการตรวจตราและเก็บเห็บที่พบทันที อย่ารอให้เห็นมากมายจนจัดการไม่ไหว นอกจากนี้อาจใช้สารเคมีคือยาฆ่าแมลงขนิดต่าง ๆ โรยหรืออาบให้แก่แมวข้อสำคัญในการใช้ยาพวกนี้ต้องอ่านและปฏิบัติตามคำแนะนำที่ติดมาด้วยอย่างเคร่งครัด
เรียบเรียงโดย : farmthaionline.com ข้อมูลจาก : การเลี้ยวแมว (บัณฑิตย์ สุริยพันธ์)ภาพประกอบจาก : อินเตอร์เน็ต