เลือกสุนัขที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะสม
ไม่ใช่สุนัขทุกตัวจะเหมาะสมกับเด็ก และไม่ใช่เด็กทุกคนจะเหมาะสมกับสุนัข ถ้าเด็กๆมีอายุต่ำกว่า 6 ปี คุณควรใช้เวลาพิจารณาสุนัขให้มากก่อนที่จะซื้อสุนัขตัวใหม่ สุนัขตัวใหญ่ซึ่งเป็นสายพันธุ์ดุหรือใช้สำหรับต่อสู้ควรหลีกเลียงเอาไว้ เพราะสุนัขเหล่านั้นอาจทำร้ายเด็กๆได้ เช่นเดียวกับไม่ควรเลือกสุนัขที่เห่ามากเกินไปเช่นกัน
สำหรับเด็กที่อายุ 7 ปีขึ้นไป เด็กบางคนเริ่มที่จะพัฒนาความผูกพันธ์ ความสัมพันธ์กับสุนัข เขาจะมีความสุขมากเมื่อได้อุ้มสุนัขของเขาครั้งแรก สุนัขสามารถสอนให้เขารู้จักภาระหน้าที่ มีความอดทนมากขึ้น มีอารมณ์ร่วมและมีความสงสาร แต่ไม่ใช่ว่าเด็กๆ จะมีความสามารถดูแลสุนัขของเขาได้อย่างสมบูรณ์ พ่อ-แม่ควรช่วยเขาดูแลด้วย
การนำสุนัขเข้ามาในครอบครัวที่มีเด็กๆอยู่
เมื่อคุณนำสุนัขเข้ามาในครอบครัวของคุณแล้ว คุณควรแน่ใจว่ามันมีเวลาพอที่จะปรับตัวก่อนที่จะถูกเด็กๆนำไปเล่น ควรมีกฏสำหรับเด็กๆ ซึ่งเป็นกฏที่แสดงถึงความห่วงใย ความกังวลในสุนัขตัวใหม่ และคุณควรตัดสินใจเรื่องที่กินและที่นอนของสุนัข ควรมีเตียงสำหรับสุนัขเอง ไม่ควรให้นอนกับเด็กๆ สิ่งสำคัญคือ คุณควรสอนวิธีการดูแลสุนัขให้กับเด็กๆด้วย รวมทั้งคุณก็ต้องฝึกสุนัขเช่นกัน ควรให้เวลากับพวกเขาก่อนที่จะเกิดอุปนิสัยที่ไม่พึงประสงค์ในอนาคต
การนำเด็กเข้ามาในครอบครัวที่มีสุนัขอยู่
ส่วนมากมักเกิดความกังวลกันว่า สุนัขจะปฏิบัติตัวเช่นไรเมื่อมีเด็กๆเข้ามาอยู่ในบ้าน พ่อ-แม่ส่วนมากมักห่วงความปลอดภัยของเด็กๆ ส่วนมากสุนัขจะเชื่องกับเด็กที่เข้ามาใหม่และไม่ค่อยจะสนใจเด็กเท่าใดนัก แต่จะไม่เป็นเช่นนี้หากพ่อ-แม่ต่างก็ให้เวลากับเด็กๆเป็นพิเศษ
ปัญหามักเริ่มเกิดตอนที่เด็กเริ่มหัดเดิน ซึ่ในขณะนั้นเด็กๆก็ยังคงไม่เข้าใจกฏของบ้านและไม่รู้จักปล่อยให้สุนัขอยู่ตามลำพัง สุนัขจะมีความสุขมากหากมีที่เป็นของมันเอง จงจำไว้ว่าเมื่อคุณนำเด็กเข้ามาอยู่ในบ้าน ทุกคนควรเอาใจใส่สุนัขมากๆแล้วมันจะมีนิสัยที่ดีและเชื่องกับเด็ก
ความสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับสุนัข
สำหรับสุนัขแล้วทุกคนในครอบครัวเป็นส่วนหนึ่งของเขา แต่เมื่อมีเด็กเล็กๆเข้ามาอยู่ด้วย เขาจะรู้สึกว่าเด็กไม่ใช่เจ้านายของเขา ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาได้ เพราะเขารู้สึกว่าเด็กไม่ใช่เจ้านาย เขาจึงมักปฏิเสธคำสั่งของเด็กๆและอาจกัดเด็กๆได้ เป็นความจำเป็นที่พ่อ-แม่ควรเข้าใจสุนัขและมีการตักเตือนเพื่อป้องกันปัญหาที่กล่าวมาแล้ว หรือคุณอาจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก็ได้ เช่น สัตวแพทย์ เป็นต้น
ทำไมสุนัขจึงกัดเด็กและจะป้องกันได้อย่างไร
เมื่อสุนัขกัดผู้ใหญ่มันมักจะโดนทำโทษ แต่เมื่อกัดเด็กความกลัวที่จะโดนทำโทษก็จะลดลง แต่สุนัขก็จะมีการเตือนก่อนกัดเสมอ โดยแสดงออกทางสีหน้า ขา เพื่อทำให้เด็กๆเกิดอาการกลัว
เป็นโชคไม่ดีที่เด็กๆไม่สามารถสื่อเป็นภาษาของสุนัขได้และสุนัขก็ไม่สามารถสื่อสารได้เช่นกัน ส่วนมากการที่สุนัขกัดเด็กๆนั้นเกิดจากการผิดพลาดในการเอาใจใส่ของพ่อ-แม่ และผิดพลาดเกี่ยวกับการป้องกันสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งก็ไม่ใช่วิธีแก้ไขปัญหาอย่างดีเยี่ยมโดยการดุสุนัข
หากว่าเด็กๆโดนกัดและมีแผลเกิดขึ้น คุณควรทำความสะอาดแผลและใส่ยาให้เขา หากคุณสงสัยว่าสุนัขนั้นเป็นโรคพิษสุนัขบ้าหรือไม่ คุณควรติดต่อกับสถานพยาบาลใกล้บ้านคุณทันที ความกระทบเทือนทางจิตใจมีความรุนแรงกว่าทางร่างกาย หากเด็กเกิดอาการกลัวสุนัข คุณควรนำเขาออกมาให้ห่างจากสุนัขก่อน แล้วจึงค่อยๆให้เขาเข้าไปหาสุนัขอีกครั้งเมื่อเขาพร้อม แต่เราก็ไม่สามารถประมาณเวลาได้แน่นอนว่าเด็กๆจะหายกลัวเมื่อใด คุณควรหาผู้เชี่ยวชาญมาช่วย ถ้าเด็กๆของคุณไม่สามารถเขาหาสุนัขได้อีก
เกี่ยวกับสุขภาพของผู้เลี้ยงสุนัข
สุนัขและคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข แต่ก็มีความเสี่ยงเล็กน้อยต่อการติดเชื้อ แต่ก็มีเพียงไม่กี่โรคเท่านั้น เช่น โรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งคุณควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้ให้กับสุนัขของคุณ เพราะหากคุณไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขของคุณ หากสุนัขของคุณไปกัดลูกของคุณนั่นหมายถึงคุณต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมายเพื่อรักษาเขา เด็กๆของคุณอาจติดพยาธิตัวกลม และพยาธิปากขอได้จากอุจจาระของสุนัข ดังนั้นควรถ่ายพยาธิให้กับสุนัขด้วย เห็บและหมัดก็อาจกัดเด็กๆได้เช่นกัน คุณจึงควรกำจัดเห็บ-หมัดให้กับสุนัขด้วยเช่นกัน ไม่ควรให้เด็กนอนกับสุนัขเพราะอาจทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้
วิธีแก้ปัญหาง่ายๆสำหรับปัญหาเด็กกับสุนัข
1. การเห่าทำให้เด็กตื่นจากการนอนหลับ วิธีแก้ปัญหา : ย้ายสุนัขให้ไกลออกไปจากสถานที่ที่มีเด็กนอนหลับอยู่ ปล่อยให้เด็กๆชินกับเสียงเห่าของสุนัข ต่อไปเขาก็จะ สามารถหลับได้เอง2. สุนัขวิ่งเข้าไปหาเด็กทำให้เขาล้มลง วิธีแก้ปัญหา : ให้สุนัขอยู่ห่างๆเด็กที่เพิ่งหัดเดิน สอนให้เด็กรู้จักวิธีการบอกให้สุนัขนั่งลงเวลาที่สุนัขมีอาการ ตื่นเต้นมาก3. สุนัขขโมยอาหารของเด็กหรือขออาหารที่โต๊ะ วิธีแก้ปัญหา : ให้นำสุนัขออกจากครัวในขณะที่เด็กกำลังรับประทาน อาหาร มีอาหารของสุนัขเองไม่ควรนำอาหารบนโต๊ะให้4. สุนัขกระโจใส่เด็กๆ วิธีแก้ปัญหา : ไม่ควรอนุญาตให้ทำเช่นนั้นกับใครๆทั้งสิ้น สอนให้เด็กรู้จักหลบและหันหลังให้สุนัขขณะที่สุนัขกระโดด หรืออาจสอนสุนัขตั้งแต่เด็กๆ5. สุนัขคำรามหรือขู่เด็ก วิธีแก้ปัญหา : ไม่ควรอดทนต่อการรุกรานของสุนัข และควรเข้มงวดกับการ ฝึกสุนัขให้มากขึ้น ให้คำแนะนำกับเด็กๆไม่ควรเคลื่อนย้ายชามอาหาร ของเล่นของสุนัข เพราะสุนัข ควรมีที่ประจำของเขาเอง รวมถึงที่นอนด้วย6. เด็กเล่นกับอุจจาระของสุนัข วิธีแก้ปัญหา : ให้สุนัขอยู่ข้างนอกและทำความสะอาดก่อนที่เด็กจะมาเล่น มีที่ให้สุนัขถ่ายอุจจาระซึ่งไม่ใช่ที่ที่อยู่ใกล้กับสถานที่เล่น ของเด็กๆ
ที่มา : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์