สมัยก่อน คนไม่เห็นความสำคัญของบรรจุภัณฑ์กันเท่าใดนัก โดยเฉพาะคนไทย ที่ให้ความสำคัญของตัวสินค้ามากกว่าสิ่งภายนอกที่นำมาห่อหุ้ม แต่ทุกวันนี้คนไทยให้ความสำคัญของบรรจุภัณฑ์มากขึ้น ด้วยตระหนักว่า เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคประทับใจเป็นอันดับแรกก่อนที่จะเห็นตัวสินค้า นอกจากประโยชน์ด้านอื่น เช่น ป้องกันสินค้าไม่ให้กระแทก อันอาจทำให้สินค้าชำรุดเสียหายได้ ยิ่งหากเป็นสินค้าสำหรับส่งออกแล้ว ก็ยิ่งมีการแข่งขันทางด้านบรรจุภัณฑ์กันมากเพราะชาวต่างชาติให้ความสำคัญกับบรรจุภัณฑ์ พอ ๆ กับตัวสินค้าทีเดียว เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักบริการส่งออก 1 กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับสมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย สมาคมผู้ส่งออกดอกกล้วยไม้ไทย สมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย และศูนย์การบรรจุหีบห่อไทย และบริษัทกลุ่มสยามบรรจุภัณฑ์ได้จัด ประกวดออกแบบบรรจุภัณฑ์ผลไม้สดและกล้วยไม้สด ขึ้นโดยมีหัวข้อและแนวคิด การประกวดคือฟิวเจอร์...เฟรช ซึ่งการประกวดมีนิสิต นักศึกษาและผู้สนใจร่วมส่งผลงานเข้าประกวดมากมาย ขอนำบุคคลที่ได้รับรางวัลจากการประกวดในครั้งนี้ 2 คน คือ คนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ และอีกคนได้รับรางวัลที่ 2 ซึ่งทั้งสองคนเป็นนิสิตภาควิชาเทคโนโลยีการบรรจุและวัสดุ คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งได้สร้างสรรค์ผลงานการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำไปผลิตและใช้ในอุตสาหกรรมส่งออกผลไม้ได้จริง
รางวัลชนะเลิศ 1 ได้แก่ นางสาวกนกวรรณ สังสรรค์ศิริ นิสิตปีที่ 4 ออกแบบบรรจุภัณฑ์สำหรับมังคุดเพื่อการส่งออก ได้รับรางวัลชนะเลิศ เงินสด 40,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ โดยมีแนวความคิดในการออกแบบคือ สามารถเป็นได้ทั้งบรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่งและบรรจุภัณฑ์เพื่อการจัดจำหน่าย โครงสร้างของบรรจุภัณฑ์ตอบสนองการขนส่งหรือลำเลียงสินค้า สามารถวางเรียงซ้อนได้อย่างแข็งแรง โดยด้านบนของกล่องมีปีกรองรับกล่องที่วางเรียงซ้อนโดยไม่ให้มีการลื่นไหล หรือตก ได้ง่าย อีกทั้งยังประหยัดเนื้อที่ในการขนส่ง ตัวกล่องสามารถพับแสดงให้เห็นสินค้าภายในกล่องได้อย่างชัดเจน รูปแบบของกล่องช่วยประหยัดกระดาษในการขึ้นรูปและขึ้นรูปได้ง่าย นอกจากนี้การใช้งานในการเปิดนำสินค้าออก หรือปิดเมื่อรับประทานไม่หมด รวมถึงการ ดิสเพลย์ ง่ายต่อการใช้งาน โดยใช้การสื่อสารด้านกราฟิก การจัดองค์ประกอบของรูปภาพ สีสัน ตัวอักษรและตราสินค้า ได้อย่างสวยงามลงตัว อีกคน นางสาวปัทมา ตะวงษา นิสิตปีที่ 4 ได้รับรางวัลที่ 2 ออกแบบบรรจุภัณฑ์สำหรับสับปะรดเพื่อการส่งออก ได้รับเงินสด 30,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ โดยมีแนวคิดในการออกแบบคือ สามารถเป็นได้ทั้งบรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่ง และบรรจุภัณฑ์เพื่อการจัดจำหน่าย มีโครงสร้างเรียบง่าย สามารถพับแสดงให้เห็นสินค้าภายในกล่องได้ชัดเจน ผู้บริโภคสามารถซื้อปลีกโดยมีบรรจุภัณฑ์ที่หิ้วไปได้โดยไม่ต้องรวมถุงใส่อีกชั้นเพราะกล่องมีหูหิ้ว อำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคในการหิ้วถือกลับบ้าน สามารถเปิดนำสินค้าออกมารับประทานได้สะดวก ประหยัดเนื้อที่ในการขนส่ง และใช้การสื่อสารด้านกราฟิกที่เข้าใจง่าย
ซึ่งนิสิตที่ชนะการประกวดทั้งสองคนได้ศึกษาและฝึกงานกับมหาวิทยาลัยชั้นนำพร้อมทั้งได้เดินทางไปดูงานในงานแสดงสินค้า ณ ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ...และผลงานบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลทั้งสองชิ้นนี้ จะได้นำไปแสดงในงานแสดงสินค้าอาหารนานาชาติ ไทยเฟ็กซ์ 2010 ที่เมืองทองธานี ในเดือนพฤษภาคม 2553 ด้วย กล่าวถึงนิสิตแล้วขอกล่าวถึงสถาบันไปด้วยเลย... มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย จะร่วมมือในการพัฒนาการวิจัยเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งทางวิชาการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และการสร้างองค์ความรู้ เพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพในการผลิตสินค้าเกษตรของประเทศ โดยความร่วมมือในการวิจัยมีกำหนด 3 ปี มีการจัดตั้ง 3 ศูนย์คือ 1.ศูนย์วิจัยและพัฒนาการทดสอบผลิตภัณฑ์ธรรมชาติเพื่อการผลิตสัตว์ 2.ศูนย์วิทยาการส้มโอ 3.ศูนย์วิทยาการสุขภาพเป็ด สำหรับความคืบหน้าจะนำมาเสนอต่อไปในภายภาคหน้า.
ที่มา และ ภาพประกอบ : เดลินิวส์ ออนไลน์