ทางเลือกใหม่เกษตรกรเมืองพัทลุงการลงทุนประกอบ ธุรกิจเลี้ยงกบ ก็เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่เกษตรกรชาวพัทลุงให้ความสนใจและนิยมหันมาเลี้ยงกบกันมากขึ้น นอกจากเกษตรกรจะลงทุนสร้างบ่อลอยหรือบ่อซีเมนต์ เลี้ยงกบแล้ว เกษตรกรบางรายยังใช้ภูมิปัญญาพัฒนา วิธีเลี้ยงกบ เป็นการลดต้นทุน ด้วยการเลี้ยงกบในขวดน้ำ และเลี้ยงกบคอนโด เพียงแต่จัดหายางรถสิบล้อเก่า ๆ มาวางซ้อนเป็นชั้น ๆ ใส่น้ำนำลูกกบไปปล่อยเลี้ยง ใช้เวลาเปลี่ยนน้ำให้อาหารประมาณ 2 เดือน กบก็จะโตขายได้ราคาดี นายคำรณ ขวัญศรี อดีตครูจ้างสอนที่ลาออกมาประกอบอาชีพส่วนตัว ปัจจุบันพัก อยู่บ้านเลขที่ 208 หมู่ที่ 3 ต.พนมวังก์ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ยอมลงทุนให้ นางระภีพรรณ ขวัญศรี ภรรยา ครูโรงเรียนนาขยาด ใช้เวลา ว่างเดินทางไป ศึกษาดูงานการเลี้ยงกบมาจาก ในจังหวัดทางภาคอีสาน และกลับมาใช้พื้นที่รอบ ๆ บ้าน นำยางรถสิบล้อมาวางซ้อน ชุดละ 3 เส้น ใส่น้ำในวงล้อและจัดหาลูกกบมาเลี้ยงครั้งแรกจำนวน 300 ตัว คอยดูแลให้อาหารกบ ก็โตเต็มที่ภายใน 2 เดือน จึงได้จัดหายางรถมาสร้างคอนโดเพิ่มมากขึ้นและยังได้ขยายกิจการ การเลี้ยงกบไปสู่ การเลี้ยงในบ่อลอย มีการเพาะพันธุ์กบไว้เลี้ยงเอง ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ มีรายได้เป็นที่น่าพอใจ
นายคำรณ เผยว่า เมื่ออดีตรับราชการเป็นครูผู้สอนอยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง แต่ก็มีใจรักในอาชีพอิสระ ยอมลาออกมาประกอบอาชีพส่วนตัว ภรรยาก็ยังรับราชการอยู่จนถึงปัจจุบัน เมื่อ 2 ปีก่อนได้ให้ภรรยาเดินทางไปศึกษาดูงานการเลี้ยงกบในจังหวัดทางภาคอีสาน เมื่อกลับมาแล้วก็นำความรู้มาทดลองเลี้ยงกบไว้กินในครอบครัว โดยจัดหายางรถยนต์มาวางซ้อนเป็นชั้น ๆ และเก็บไว้ที่ชายคาบ้านจำนวน 3 ชุด เมื่อเห็นว่ากบที่เลี้ยงไว้ในล้อยางโตเร็วและคุ้มกับการลงทุน จึงได้จัดหาล้อยางรถสิบล้อมาวางซ้อนเพิ่มขึ้นปัจจุบันมีคอนโดเลี้ยงกบจำนวน 15 ชุดและยังได้สร้างบ่อลอยหรือบ่อซีเมนต์เพิ่มอีกจำนวน 9 บ่อ และได้เลี้ยงกบส่งขายมาแล้วจำนวน 8 รุ่น ๆ ละ 10,000 ตัว สำหรับลูกกบที่นำมาเลี้ยงนั้นเป็น กบนา ที่มีอยู่ทั่ว ๆ ไปใกล้หมู่บ้าน เมื่อจัดหาลูกกบมาเลี้ยงในช่วงแรก ๆ ก็คัดเลือกแม่กบที่สมบูรณ์มาเลี้ยงไว้เป็นแม่พันธุ์ ส่วนพ่อพันธุ์ก็จัดหามาจากที่อื่น นำมาผสมพันธุ์ในบ่อที่จัดเตรียมไว้ เมื่อกบไข่ออกเป็นลูกอ๊อด ก็นำมาอนุบาลและเก็บไว้เลี้ยงเอง ส่วนที่เหลือก็จะขายให้กับผู้สนใจ ที่มาขอซื้อลูกกบตัวละ 3 บาท
นายคำรณ กล่าวอีกว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านการเลี้ยงกบมาหลาย ๆ รุ่น ก็จะ พบว่าการเลี้ยงกบเป็นอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจ แต่ ในขณะเดียวกันก็มีปัญหาอุปสรรคอยู่มากมาย ผู้เลี้ยงกบจะต้องหมั่นดูแลกบที่เลี้ยงไว้อย่าง ใกล้ชิด คอยให้อาหาร เปลี่ยนน้ำทุกวันและที่สำคัญจะต้องเฝ้าสังเกตดูอาการของกบที่เลี้ยงไว้ เพราะเกรงว่ากบจะติดโรคพยาธิ เมื่อพยาธิขึ้นตากบก็จะตาย นอกจากนั้นจะต้องสังเกตดูแผลตามลำตัวที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เมื่อตรวจพบอาการ ก็ขอให้รีบเปลี่ยนน้ำทันที ส่วนยาถ่ายพยาธิก็ต้องใช้ยาผสมอาหารให้กบกินเดือนละ 1 ครั้ง ส่วนผู้ที่สนใจจะเลี้ยงกบไว้ข้างบ้าน นั้น อยากจะแนะนำให้เลี้ยงกบคอนโด นอก จากจะไม่สิ้นเปลืองน้ำ ใช้พื้นที่ไม่มากแล้ว กบที่เลี้ยง ในคอนโดจะโตเร็ว กว่ากบที่เลี้ยงใน บ่อลอยที่ต้องใช้เวลานานถึง 3 เดือน แต่กบคอนโดใช้เวลา 2 เดือนก็จะโตเต็มที่ขายได้ 3 ตัวต่อ 1 กก. และสร้างคอนโด 1 ชุด สามารถเลี้ยงกบได้ 100 ตัว สำหรับอาหารที่นำมาใช้เลี้ยงกบ ตามปกติก็มีอาหารกบขายอยู่ตามท้องตลาด แต่เพื่อประหยัดต้นทุน ก็ทดลองนำอาหารปลาดุกมาเลี้ยงกบ บางครั้งก็ผสมกล้วยน้ำว้าในอาหารให้กบกิน กบก็จะโตได้ตามปกติและยังให้น้ำหนักดีอีกด้วย สำหรับตลาดขายกบนั้น นาย คำรณ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้พ่อค้าคนกลางมาติดต่อขอให้ทำสัญญาส่งกบขายไปต่างประเทศ แต่เนื่องจากจะต้องจัดส่งครั้งละ 10 ตัน ก็เกรงว่าจะไม่มีกบส่งให้ตามสัญญา จึงเลือกที่จะเลี้ยงกบในจำนวนที่มีตลาดอยู่ภายในและจังหวัดใกล้เคียง กบแต่ละรุ่นจะมีพ่อค้ามารับซื้อราคาส่ง 70 บาทต่อกก. ขายปลีกที่บ้าน 80 บาทต่อกก. ส่วนต้นทุนการเลี้ยงกบ เป็นค่าอาหาร ค่ายาถ่ายพยาธิ ค่าสิ้นเปลืองน้ำ ค่าไฟฟ้า เมื่อกบโตเต็มที่จะขายได้กำไรตัวละ 8-9 บาท ก็เป็นรายได้ที่น่าพอใจ จังหวัดพัทลุงเป็นเมืองหลักทางด้านการเกษตรเป็นแหล่งผลิตอาหารส่งออกไปทั่วภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นการทำนาข้าว ปลูกพืชผัก เลี้ยงสัตว์ ที่ลงทุนประกอบอาชีพจนประสบความสำเร็จกันมาแล้ว วันนี้การเลี้ยงกบก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ น่าสนใจ เพราะยังมีตลาดรองรับอยู่อีกมาก.
บุญเลิศ ชายเกตุ
ที่มา และ ภาพประกอบ : เดลินิวส์ ออนไลน์