นายเฉลิมเกียรติ แสนวิเศษ เลขาธิ การคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กปร. ได้กำหนดจัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจรโครงการ วิถีพอเพียงตามแนวพระราชดำริ เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจ และแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สู่สาธารณชนให้ได้รับทราบ โดยเยี่ยมชมเกษตรกร องค์กร ภาคธุรกิจที่ได้น้อมนำแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เห็นตัวอย่างแห่งผลสำเร็จ และได้นำไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันต่อไป โดยสื่อมวลชนได้เยี่ยมชมการดำเนินงานของโครงการฟาร์มตัวอย่าง ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ต.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา
ทั้งนี้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ต่าง ๆ เมื่อทรงทราบว่าราษฎรได้รับความเดือดร้อนจากการประกอบอาชีพ ก็พระราชทานความช่วยเหลือโดยมีพระราชดำริ ให้จัดตั้งโครงการฟาร์มตัวอย่าง ตามพระราชดำริ เพื่อเป็นแหล่งจ้างแรงงาน แหล่งผลิตอาหารที่ปลอดภัยจากสารพิษและเป็นแหล่งเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง ทรงโปรดฯ ให้จ้างแรงงานราษฎรในหมู่บ้านใกล้เคียงโครงการเข้ามาเรียนรู้ปฏิบัติงาน โดยสำนักราชเลขาธิการขอรับการสนับสนุนความรู้ทางวิชาการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และจัด ระบบบริหารจัดการภายในฟาร์มจำหน่ายผลผลิตให้ประชาชนในพื้นที่ เป็นแหล่งผลิตอาหารที่มีคุณภาพและราคาถูก ทรงโปรดฯ ให้จัดตั้งโครงการฟาร์มตัวอย่าง ตามแนวพระราชดำริ ขึ้นในพื้นที่หลายแห่ง สำหรับโครงการฟาร์มตัว อย่างในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ต.คลองหอยโข่ง อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา มีเนื้อที่ทั้งหมด 798 ไร่ 2 งาน 778 ตารางวา ปัจจุบันดำเนินการไปแล้วร้อยละ 70 ซึ่งเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะเป็นแหล่งเรียนรู้ในการทำการเกษตรให้แก่ราษฎรที่เข้ามาทำงาน ประมาณ 173 คน และประชาชนที่สนใจได้นำไปประกอบอาชีพของตนเองได้ นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นแหล่งจ้างงานและแหล่งผลิตอาหารให้กับชุมชน ทำให้มีอาหารบริโภคในราคาที่ไม่แพง ปลอดสารพิษและสด เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาในการขนส่งและทำให้ประชาชนในพื้นที่มีงานทำและมีรายได้อีกด้วย สำหรับการดำเนินงานของฟาร์มในช่วงที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้จากการจำหน่ายโค ปลา และพืชผลทางการเกษตร ไม่น้อยกว่า 750,000 บาทต่อปี
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี นาถที่ได้มี พระราชดำริให้จัดตั้งโครงการฟาร์มตัวอย่างขึ้นมา ทำให้ราษฎรได้รับความรู้ในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น มีอาชีพเสริมมีรายได้มั่นคง ราษฎร มีแหล่งอาหารไว้บริโภคในครัวเรือน ราษฎรมี คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีราย ได้เพิ่มขึ้นเพียงพอต่อการดำรงชีวิต ไม่บุกรุกทำลายป่า ไม่อพยพทิ้งถิ่นฐานไปประกอบอาชีพอื่น มีที่ประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่ง เป็น ศูนย์สาธิต และเป็นรูปแบบในการพัฒนาพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป ราษฎรมีจิตสำนึกหวงแหนทรัพยากรป่าไม้ของชาติและร่วมมือดูแลรักษาให้คงอยู่ตลอดไป.
ที่มา และ ภาพประกอบ : เดลินิวส์ออนไลน์