นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในปี 2552 ที่ผ่านมา ไทย-รัสเซีย มีมูลค่าการค้าสินค้าเกษตร รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 11,149 ล้านบาท โดยไทยส่งออก 5,719 ล้านบาท และนำเข้า 5,430 ล้านบาท ซึ่งนับว่าไม่มากนัก แต่ก็มีโอกาสและความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มมูลค่าทางการค้าระหว่างกันให้สูงขึ้น เนื่องจากภาครัฐและผู้ค้าทั้งสองประเทศต้องการขยายการส่งออกสินค้าเกษตรคุณภาพ อาทิ ธัญพืช ข้าวสาลี น้ำมันพืช ผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์จากรัสเซีย และเนื้อสัตว์ปีก เนื้อหมู ข้าว ผลไม้-ผักกระป๋อง กุ้ง และผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำจากประเทศไทย ประกอบ กับปัจจัยเกื้อหนุนจากมติที่ประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-รัสเซีย ครั้งที่ 4 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2552 ที่เห็นชอบให้มีการจัดตั้งคณะทำงานด้านความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างไทย-รัสเซีย ขึ้น ซึ่งขณะนี้ฝ่ายไทยได้จัดทำร่างคำสั่งเพื่อตั้งคณะทำงานดังกล่าว เมื่อผ่านขั้นตอนการลงนามแล้ว จะได้เชิญฝ่ายรัสเซียมาร่วมประชุมในอนาคตอันใกล้ และประเทศรัสเซียยังได้เสนอความร่วมมือในด้านการกักกันพืชตลอดจนด้านคุณภาพและความปลอดภัยของธัญพืช โดยเสนอให้มีการจัดตั้งคณะทำงานย่อยขึ้น 2 ชุดเพื่อดูแล นอกจากความร่วมมือทางการค้าแล้ว ยังมีความร่วมมือทางวิชาการโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการประมง โดยที่ผ่านมารัสเซียได้เอื้อเฟื้อข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาการเพาะเลี้ยงปลาสเตอร์เจี้ยน ณ ดอยอินทนนท์ มาโดยตลอด และในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2553 นี้ ฝ่าย รัสเซียยังให้เกียรติฝ่ายไทยด้วยการเชิญอธิบดีกรมประมงและคณะเดินทางไปหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการวิจัยการเพาะเลี้ยงปลาสเตอร์เจี้ยน และเตรียมการ อบรมการแปรรูปคาเวียร์ รวมถึงหารือถึงการจัดส่งเจ้าหน้าที่กรมประมง เดินทางไปเข้ารับการฝึกอบรมด้านห้องปฏิบัติการตรวจสอบอาหารทะเล ซึ่งรัสเซียมีความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการตรวจวิเคราะห์มาตรฐานห้องปฏิบัติการระดับสากล อันจะเป็นประโยชน์ในการลดปัญหาการส่งออกสินค้าประมงระหว่างกันในระยะยาวอีกด้วย.
ที่มา : เดลินิวส์ ออนไลน์