มูลค่าปีละ 1,000 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน เนื่องจากปัญหาคนงานตัดอ้อยหายากมากขึ้น ต้องใช้แรงงานต่างด้าว... ภายหลังจากที่ ครม.ได้มีมติให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไปจัดทำโครงการสินเชื่อจัดซื้อรถตัดอ้อยให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล เพื่อแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมนำเสนอ ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ได้นำรายละเอียดของโครงการนี้ มาเสนอต่อที่ประชุมบอร์ด ธ.ก.ส. นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า เนื่องจากปัญหาคนงานตัดอ้อยหายากมากขึ้น ต้องใช้แรงงานต่างด้าว และแม้จะเป็นแรงงานต่างด้าว ก็ยังหายากเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ ทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้มอบหมายให้ ธ.ก.ส.ไปจัดเตรียมวงเงินสินเชื่อมาสนับสนุนโครงการนี้ปีละ 1,000 ล้านบาท นายลักษณ์ วจนานวัช" ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า โครงการสินเชื่อจัดซื้อรถตัดอ้อยให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล เพื่อแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน เนื่องจากปัญหาคนงานตัดอ้อยหายากมากขึ้น ต้องใช้แรงงานต่างด้าว ด้วยเหตุนี้ ทาง ก.อุตสาหกรรมได้มอบให้ ธ.ก.ส.จัดเตรียมวงเงินสินเชื่อมาสนับสนุนโครงการนี้ปีละ 1,000 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 3 ปี คิดเป็นวงเงินรวมทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท ปล่อยกู้รายละไม่เกิน10 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี ผ่อนชำระหนี้ไม่เกิน 6 ปี โดย ธ.ก.ส.จะต้องนำรายละเอียดทั้งหมดส่งให้ที่ประชุมบอร์ดอนุมัติเดือน พ.ค.นี้ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่เดือน พ.ย.ซึ่งเป็นฤดูเก็บเกี่ยวอ้อย สำหรับการพิจารณาคุณสมบัติของลูกค้าที่จะเข้ามาขอกู้เงินในโครงการสินเชื่อจัดซื้อรถตัดอ้อยให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล เพื่อแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน จะต้องเป็นเกษตรกรรายใหญ่ ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่มีเนื้อที่ตั้งแต่ 1,000 ไร่ขึ้นไป เจ้าของโรงงานน้ำตาลที่มีพื้นที่เพาะปลูกอ้อยด้วย หรือสหกรณ์การเกษตร เป็นต้น หากโรงงานน้ำตาลรายใดยังอยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการ จะต้องไปหาโรงงานน้ำตาลแห่งอื่นมาเป็นผู้ค้ำประกันหนี้ด้วย หรืออาจจะเปลี่ยนไปให้สหกรณ์การเกษตร เข้ามายื่นเรื่องขอกู้แทน แต่ที่สำคัญผู้กู้จะต้องมีสัญญา (คิว) ส่งมอบอ้อยป้อนเข้าโรงงานผลิตน้ำตาลมาประกอบการพิจารณาสินเชื่อด้วย.
ที่มา : ข่าวไทยรัฐ ออนไลน์