นายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เปิดเผยว่า จากการประชุมทวิภาคีระหว่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีนและประเทศไทยเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ข้อสรุปว่าทั้งไทยและจีนต่างได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ จึงมีแนวคิดที่จะร่วมมือกันป้องกัน แก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โดยทางจีนเตรียมที่จะเชิญฝ่ายไทยส่งผู้แทนเข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการในเรื่องการบริหารจัดการน้ำที่จะมีขึ้นในเดือนมิ.ย. 2553 นี้ รวมทั้งเชิญฝ่ายไทยส่งผู้แทนเข้าเยี่ยมชมการดำเนินงาน โครงการเขื่อนต่าง ๆ ของจีน ตลอดจนการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่ไทยแจ้งให้ฝ่ายจีนทราบว่าประเทศไทยกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการผันน้ำจากแม่น้ำระหว่างประเทศ และการเดินเรือบนแม่น้ำล้านช้างและแม่น้ำโขง รวมทั้งการเชิญทางการไทยเยี่ยมชมกระทรวงทรัพยากรน้ำและโครงการต่าง ๆ ในประเทศจีน เนื่องจากทราบว่าขณะนี้ประเทศไทยอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการผันน้ำจากแม่น้ำระหว่างประเทศ เช่น แม่น้ำเมย, แม่น้ำโขง, แม่น้ำสตึงนัม เข้ามายังประเทศไทย ส่วนฝ่ายจีนเสนอที่จะแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการผันน้ำ ซึ่งได้จากการเรียนรู้จากการศึกษาความเป็นไปได้ และผลกระทบจากการผันน้ำทางตอนใต้ของประเทศจีน นอกจากนี้ทางการจีนยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับระดับน้ำที่ลดลงอย่างต่อเนื่องในลุ่มน้ำโขงเขตพื้นที่ของประเทศไทย จนมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นผลกระทบมาจากการสร้างเขื่อนในแม่น้ำล้านช้างหรือแม่น้ำในมณฑลยูน นาน สำหรับสถานการณ์ภัยแล้งของประเทศจีนล่าสุดในพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศจีนกำลังประสบภาวะภัยแล้งครอบคลุมพื้นที่ถึงร้อยละ 80 ของพื้นที่มณฑลยูนนาน ส่งผลให้ประชากรกว่า 8 ล้านคน ขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภค-บริโภคอย่างหนัก.
ที่มา : เดลินิวส์ ออนไลน์