กรมการข้าว ขอความร่วมมือต่อเกษตรกร เลื่อนการทำนาปีในเขตที่รับน้ำจากเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ในภาคเหนือตอนล่าง และในเขตโครงการชลประทานเจ้าพระยาใหญ่ เนื่องจากน้ำไม่เพียงพอ... นายประเสริฐ โกศัลวิตร อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ออกประกาศเรื่อง ขอให้เลื่อนการทำนาปีในเขตโครงการชลประทานทุกโครงการที่รับน้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ในภาคเหนือตอนล่างและในเขตโครงการชลประทานเจ้าพระยาใหญ่ จากปกติเดือนพฤษภาคมเรื่อยไปจนกว่าจะเริ่มมีฝนตกชุก ซึ่งจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำอย่างเพียงพอต่อการเพาะปลูกในช่วงประมาณกลางเดือนกรกฎาคม 2553 นั้น กรมการข้าวในฐานะผู้ดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจึงขอความร่วมมือต่อเกษตรกรในเขตพื้นที่ดังกล่าว และหากรายใดยังคงทำนาตามช่วงเวลาปกติอาจประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ และผลผลิตข้าวได้รับความเสียหายตามมา อธิบดีกรมการข้าวกล่าวว่า ตามประกาศดังกล่าวได้แจ้งว่า ในปีนี้เป็นปีที่เกิดสภาวะแห้งแล้งติดต่อกันเป็นระยะเวลานานในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยาใหญ่ ส่งผลให้ปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์เหลือปริมาณน้อย โดยมีปริมาณน้ำที่ยังสามารถระบายออกไปใช้งานได้อีกเพียงประมาณ 1,308 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น ซึ่งปริมาณดังกล่าวนี้ไม่สามารถส่งไปสนับสนุนการทำนาปีตอนต้นฤดูฝน ในโครงการชลประทานทุกแห่งที่รับน้ำจากเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ในภาคเหนือตอนล่าง รวมทั้งในเขตโครงการชลประทานเจ้าพระยาใหญ่ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตาม หากสภาวะอากาศในช่วงเดือนมิถุนายนเปลี่ยนแปลง และมีฝนตกชุกหนาแน่นอาจทำให้เกษตรกรในพื้นที่ดังกล่าวสามารถทำนาปีได้เร็วขึ้นจากที่ประกาศไว้ โดยทางกระทรวงเกษตรฯจะประกาศให้ทราบทันที.
ที่มา : ข่าวไทยรัฐ ออนไลน์