นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวเนื่องในโอกาสครบรอบ 108 ปี และการก้าวเข้าสู่ปีที่ 109 ของ กรมชลประทานว่า กรมชลประทานยังคงมุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่ดูแลพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อคนไทยอย่างเต็มที่ เพื่อสานต่องานที่บรรพบุรุษได้ทำไว้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะน้ำเป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิต ทั้งเพื่ออุปโภค บริโภค รักษาความสมดุลของระบบนิเวศเพื่อใช้ในการเกษตร และเพื่อการใช้น้ำทุกกิจกรรม การบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ การบำรุงรักษาแหล่งน้ำให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ใช้งาน ได้อย่างเต็มที่ เป็นหน้าที่หลักที่กรมชลประทานยึดมั่น และยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด ในปีที่ผ่านมากรมชลประทาน ได้พัฒนารูปแบบของการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพครอบคลุมในทุกพื้นที่ มากขึ้น โดยการกำหนดความชัดเจนของหน้าที่ความรับผิดชอบและการดำเนินงานของกลุ่มหรือองค์กรร่วมในการบริหารจัดการน้ำให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น จาก กลุ่มผู้ใช้น้ำเดิมได้มีวิวัฒนาการไปเป็น กลุ่มบริหารการใช้น้ำ สมาคมผู้ใช้น้ำชลประทาน สหกรณ์ผู้ใช้น้ำชลประทาน จนไปถึงการจัดตั้งคณะกรรมการจัดการชลประทาน ซึ่งประกอบไปด้วยหน่วยงานจากภาครัฐ ตัวแทนจากองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น เกษตรกรและภาคเอกชน ที่ใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำ นายชลิต กล่าวอีกว่า นอกจากการสานต่อภารกิจบริหารจัดการน้ำแล้ว กรมชลประทานยังคงมีเป้าหมายที่จะพัฒนาแหล่งน้ำ สร้างพื้นที่เก็บกักน้ำเพิ่มเติม เพิ่มพื้นที่ชลประทานให้มากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการใช้น้ำของทุกภาคส่วนที่มีเพิ่มขึ้นทุกปี รวมถึงยังคงดำเนินงานบรรเทาภัยทางน้ำ โดยจัดเตรียมความพร้อมด้านเครื่องมือของกรมที่มีอยู่เพื่อ เข้าไปช่วยบรรเทาภัยทางน้ำทั้งอุทกภัยและภัยแล้งที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างทันเหตุการณ์ ทั้งนี้ อีกหนึ่งภารกิจสำคัญที่กรมชลประทานยังคงมุ่งมั่นดำเนินการอย่าง ต่อเนื่อง คือโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นหน้าที่อันสำคัญยิ่งที่กรมชลประทานจะต้องสนองพระราชดำริ เพื่อให้ประชาชนชาวไทยในประเทศได้มีน้ำใช้เพื่อการเกษตร การดำรงชีวิตและรักษาสมดุลของระบบนิเวศต่อไป.
ที่มา : เดลินิวส์ ออนไลน์