ปีนี้เป็นปีหนึ่งที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องรับบทบาทหนักในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของภาคเกษตรเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่เกษตรกร เพราะไม่เพียงแต่ต้องแก้ปัญหาโรคแมลงศัตรูพืชที่ดูเหมือนจะทวีความรุนแรงและกระจายตัวไปทั่วประเทศแล้ว ปัญหาที่หนักหนาสาหัสในขณะนี้ คือปัญหาภัยแล้งที่เรียกว่าอยู่ในขั้นวิกฤติ จนกระทั่งต้องประกาศให้ชาวนาเลื่อนการ ทำนาปีออกไปก่อนเพื่อลดความเสี่ยงเรื่องศึกแย่งน้ำ อย่างไรก็ตาม นอกจากงานแก้ไขปัญหาปากท้องของเกษตรกรแล้ว กระทรวงเกษตรฯ ยังมีภารกิจอีกหลายด้านเพื่อช่วยผลักดันให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและมีความมั่นคงในฐานะเป็นรากฐานของประเทศไทย
นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ มีภารกิจที่สำคัญคือการจัดหาแหล่งน้ำและพัฒนาระบบชลประทาน ส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรให้พึ่งพาตนเองได้ อันจะนำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีอาชีพที่มั่นคง ตลอดจนพัฒนากระบวนการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารให้ได้มาตรฐานปลอดภัยต่อผู้บริโภคและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีงานด้านการพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการผลิตทางการเกษตรที่ดีขึ้น พร้อมกันนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังมุ่งเน้นการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเกษตร เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน การดำเนินการจะบรรลุผลตามที่ตั้งไว้นั้น ต้องอาศัยการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานในสังกัด ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ มีหน่วยงานในสังกัดที่ดูแลอยู่หลายหน่วยงานทั้งหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์การมหาชน แต่ละหน่วยงานก็มีภารกิจหน้าที่รับผิดชอบแตกต่างกันไป ดังนั้น เพื่อเป็นการรวบรวมงานในด้านข้อมูลข่าวสารหรือการให้บริการที่เบ็ดเสร็จ เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรและผู้สนใจ กระทรวงเกษตรฯ จึงได้ตั้งศูนย์บริการร่วมกระทรวงเกษตรฯ ขึ้นมาเพื่อ รวบรวมข้อมูลและงานบริการที่หลากหลายจากหน่วยงานในสังกัดมารวมไว้ ณ จุดบริการเพียงจุดเดียว โดยการให้บริการของศูนย์บริการร่วมกระทรวงเกษตรฯ นั้นแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ การให้บริการข้อมูลข่าวสาร การให้บริการรับเรื่องราวร้องทุกข์และส่งต่อ และการให้บริการเบ็ดเสร็จ
เราให้บริการทั้งข้อมูลข่าวสาร อาทิ ความรู้ด้านการเกษตร ข้อมูลสารสนเทศการเกษตร ข้อมูลข่าวสารด้านมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร ข้อมูลสารสนเทศทางการเงิน การบัญชีของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ข้อมูลรายงานการสรุปสถานการณ์น้ำรายวัน ฯลฯ บริการผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์ (พด.1-7) พร้อมกับให้บริการรับเรื่องราวร้องทุกข์พร้อมส่งต่อข้อมูลให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการที่เบ็ดเสร็จ เช่น การอนุญาตหรือต่ออายุใบอนุญาตขายอาหารสัตว์ การวิเคราะห์ตัวอย่างดิน การวิเคราะห์ตัวอย่างปุ๋ย การขออนุญาตนำเข้าอาหารสัตว์ หรือแม้กระทั่งการขอเครื่องหมายรับรองมาตรฐานผ้าไหมไทยตรานกยูงพระราชทาน ศูนย์บริการร่วมกระทรวงเกษตรฯ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ขอรับบริการที่ จะได้รับทั้งความสะดวก รวดเร็ว ที่สำคัญประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย เพียงแค่มา รับบริการ ณ จุดรับบริการเพียงจุดเดียว บริเวณชั้น 1 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถนนราชดำเนินนอก ในวันและเวลาราชการเท่านั้นก็สามารถรับทราบข้อมูลข่าวสารหรือต้องการขอรับบริการหรือร้องทุกข์กับหน่วยงานในสังกัด ก็สามารถดำเนินการได้ ณ ที่นี่ที่เดียว และสามารถติดตามข้อมูลอีกช่องทางหนึ่งได้ที่เว็บไซต์ของกระทรวงเกษตรฯ www. moac.go.th หรือโทรศัพท์ไปที่ สายด่วนปัญหาเกษตรกร 1170 รับรองว่าทุกปัญหามีคำตอบ.
ที่มา : เดลินิวส์ ออนไลน์