นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า เนื่องจากผลตอบแทนการปลูกปาล์มน้ำมันดีกว่าการปลูกพืชชนิดอื่น ประกอบกับมีโครงการเปลี่ยนพื้นที่ปลูกปาล์มทั่วประเทศ จึงเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรขยายพื้นที่ปลูก ส่งผลให้ที่ผ่านมามีการนำเข้าเมล็ดพันธุ์จากประเทศคอสตาริกา เบนิน และปาปัวนิวกินีค่อนข้างสูง เพื่อเป็นทางเลือกให้กับเกษตรกร กรมได้มอบหมายให้ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี พัฒนาปรับปรุงพันธุ์กระทั่งได้สายพันธุ์ใหม่คือ ปาล์มน้ำมันลูกผสมสุราษฎร์ธานี 7 เป็นผลสำเร็จ ให้ผลผลิตทะลายสดเฉลี่ย 3,646 กิโลกรัม/ไร่/ปี สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานของกรมวิชาการเกษตรประมาณ 6.6 เปอร์เซ็นต์ และให้ผลผลิตน้ำมันดิบเฉลี่ย 881 กิโลกรัม/ไร่/ปี ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 17 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังให้เนื้อในต่อผลสูงเฉลี่ย 11 เปอร์เซ็นต์อธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าวต่อว่า ขณะนี้ศูนย์วิจัยฯ สามารถผลิตเมล็ดงอกปาล์มน้ำมันลูกผสมสุราษฎร์ธานี 1-7 ปีละ 4-5 ล้าน โดยในช่วงปี 53/54 คาดว่าจะสามารถผลิตเมล็ดงอกปาล์มน้ำมันลูกผสมสุราษฎร์ธานี 7 ได้ไม่น้อยกว่า 100,000 เมล็ดงอก และปีถัดไปตั้งเป้าไว้ที่ 200,000 เมล็ดงอก ซึ่งคาดว่าจะผลิตได้เพียงพอกับความต้องการ สำหรับเกษตรกรหรือผู้สนใจสั่งจองเมล็ดงอกและต้นกล้าปาล์มน้ำมันพันธุ์ดี สามารถสั่งจองได้ที่ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี โทร.0-7727-4026, 0-7727-4101, 08-6479-4479 ในวันและเวลาราชการ.
ที่มา : ข่าวไทยรัฐ ออนไลน์