ดร.จิราวรรณ แย้มประยูร รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า โครงการวิจัย การใช้เทคโนโลยีชีวภาพผลิตกุ้งก้ามกรามเพศผู้เพื่อการเพาะเลี้ยงเป็นโครงการวิจัยร่วมระหว่างประเทศไทยและอิสราเอล โดยการสนับสนุนจาก องค์กรให้ความช่วยเหลือนานาชาติจากสหรัฐอเมริกา ภายใต้โครงการศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพการผลิตกุ้งก้ามกรามเพศผู้เพื่อการเพาะเลี้ยง ซึ่งพัฒนางานวิจัยในรูปแบบโครงการวิจัยร่วมกับสถาบันการศึกษาต่างประเทศเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีไปสู่กลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาในทวีปเอเชีย ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 จนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลากว่า 3 ปี จากการรายงานผลการวิจัยในส่วนของประเทศไทยล่าสุดพบว่า การเลี้ยงกุ้งแบบเพศผู้ล้วนให้การเจริญเติบโต ผลผลิต และอัตราการรอดตายสูงกว่าการเลี้ยงแบบเพศรวม ทำให้กรมฯ มองเห็นโอกาสที่จะพัฒนาศักยภาพการผลิตกุ้งก้ามกรามเพื่อขยายผลการเพาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์สู่เกษตรกรในอนาคต ทางด้าน ดร.สุภัทรา อุไรวรรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำ เปิดเผยถึงผลการศึกษาวิจัยของกรมประมงว่า ในระยะแรกได้เริ่มดำเนินการทดลองเลี้ยงกุ้งก้ามกราม 4 แบบ คือ 1. แบบรวมเพศ 2. แบบเพศผู้ล้วน 3. แบบเพศผู้ล้วนและคัดขนาดโตเกิน 50 กรัมออก ทุก ๆ เดือน และ 4. แบบเพศผู้ล้วน ซึ่ง มีการคัดขนาดโตเกิน 50 กรัมออกทุก ๆ เดือน และดึงก้ามที่มีขนาดใหญ่ของตัวที่ เหลือออก โดยนำไปทดลองเลี้ยงในบ่อดินที่มีขนาด 1,200 ตารางเมตร ที่ศูนย์วิจัยและทดสอบพันธุ์สัตว์น้ำ อุตรดิตถ์ เป็นระยะเวลา 6 เดือน ผลการทดลองปรากฏว่า การเลี้ยงกุ้งแบบเฉพาะเพศผู้จะได้กุ้งที่มีอัตราการเจริญเติบโตที่ดีกว่าการเลี้ยงแบบรวมเพศ และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างกุ้งที่เลี้ยงเพศผู้แบบคัดตัวโตออก และไม่คัดตัวโตออก พบว่าในชุดการทดลองที่คัดตัวโตออก จะได้กุ้งที่มีน้ำหนักมากกว่าแบบที่ไม่คัด ตัวโตออก จากนั้นจึงทำการทดลองเปรียบเทียบการเจริญเติบโตและการรอดตายของกุ้งก้ามกรามที่เลี้ยงแบบรวมเพศ และเฉพาะเพศผู้ล้วนในฟาร์มของเกษตรกรที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นระยะเวลาอีก 4 เดือน ผลปรากฏว่า การเลี้ยงแบบเพศผู้ล้วนให้การเจริญเติบโต ผลผลิต และการรอดตายดีกว่าการเลี้ยงแบบรวมเพศ จึงทำให้เกิดการต่อยอดการผลิตกุ้งก้ามกรามเพศผู้ล้วนโดยวิธีแปลงเพศ ด้วยการผลิตกุ้งเพศผู้ที่มีไข่ โดยกำจัดต่อมไร้ท่อที่ผลิตฮอร์โมนเพศผู้ออกจากลูกกุ้งเพศผู้ เพื่อเปลี่ยนเพศให้เป็นกุ้งตัวเมียและสามารถวางไข่ได้ แล้วนำมาผสมกับกุ้งเพศผู้ปกติ ทำการตรวจลูกกุ้งที่ได้หากเป็นเพศผู้ทั้งหมด แม่กุ้งคือกุ้งที่มีไข่ ต่อจากนั้นนำกุ้งที่มีไข่ ผลิตลูกกุ้งเพศผู้ล้วนและนำลูกกุ้งที่ได้ไปกำจัดต่อมไร้ท่อ เพื่อให้ได้กุ้งที่มีไข่เป็นจำนวนมาก และผลิตลูกกุ้งเพศผู้ทั้งหมดเพื่อนำไปเลี้ยงต่อไป ผลจากการศึกษาวิจัยครั้งนี้จะเป็นผลดีต่อวงการเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกราม เนื่องจากจะได้วิธีการที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตกุ้งก้ามกราม อันเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดมากขึ้น และเกษตรกรในประเทศไทยจะสามารถเลี้ยงกุ้งก้ามกรามให้ได้ผลผลิตที่สูงขึ้น โดยได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากนักวิชาการที่ได้เรียนรู้และมีประสบการณ์จากการทำงานวิจัยในครั้งนี้อีกด้วย ดร.จิราวรรณ รองอธิบดีกรมประมง กล่าว.
ที่มา : เดลินิวส์ ออนไลน์