ปัจจุบันร้านค้าสหกรณ์ประสบปัญหาหลายประการ ทั้งจากภายในและภายนอกระบบองค์กร รวมทั้งเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ต้นทุนสินค้าสูงขึ้น จำนวนคู่แข่งที่มากขึ้น ทั้งร้านค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ ร้านสรรพสินค้า ซึ่งคู่แข่งเหล่านี้สามารถดึงดูดลูกค้าด้วยรูปลักษณ์ร้านค้าที่ทันสมัย ราคาสินค้าไม่แพง สถานที่ตั้งกระจายทั่วไปในแหล่งชุมชน สหกรณ์ร้านค้า เป็นสหกรณ์ผู้บริโภครูปแบบหนึ่ง ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อจัดหาสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคมาจำหน่ายแก่สมาชิกและบุคคลทั่วไป โดยจดทะเบียนตามกฎหมายสหกรณ์ในประเภท สหกรณ์ร้านค้า มีสภาพเป็นนิติบุคคล ซึ่งสมาชิก ผู้ถือหุ้นทุกคนเป็นเจ้าของ และลงทุนร่วมกันในสหกรณ์ด้วยความสมัครใจ ทั้งนี้จุดอ่อนภายในองค์กรและระบบของร้านค้าสหกรณ์มีหลากหลาย เช่น การบริหารจัดการองค์กร การวางแผนงาน ขาดการวิเคราะห์ต้นทุนสินค้า ขาดเทคโนโลยีการจัดการสมัยใหม่ในการ จัดการบริหารธุรกิจ เครือข่ายการร่วมซื้อและการกระจายสินค้ามีน้อยทำให้มีต้นทุนสินค้าสูง การบริหารและควบคุมสินค้าไม่ดีทำให้สินค้าขาดหาย และไม่มีการประชาสัมพันธ์ ทำให้สมาชิกไม่รู้สึกเป็นเจ้าของสหกรณ์ บุคลากรไม่ได้รับการพัฒนาความเชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่อง ความหลากหลายของสินค้ายังไม่เหมาะสม ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของร้านสหกรณ์
จากปัญหาที่หลากหลายดังกล่าว กรม ส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมกับชุมนุมร้านสหกรณ์แห่งประเทศไทย จำกัด จัดทำแผนยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาระบบร้านสหกรณ์ โดยมีการศึกษาวิเคราะห์ปัญหาและแนวทางแก้ไข ประชุมระดมสมองเพื่อหากลยุทธ์ที่เหมาะสม สำหรับเป็นแนวทางในการพัฒนาระบบร้านสหกรณ์ให้เหมาะสมกับเศรษฐกิจและการแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบัน นายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้จัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ของระบบร้านสหกรณ์ขึ้น เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจร้านค้าปลีกมีการแข่งขันกันสูงทำให้ร้านค้าย่อยและร้านสหกรณ์ต้องเผชิญกับปัญหาที่มาพร้อมกับการแข่งขัน ประกอบกับวิทยาการที่ก้าวหน้า ทำให้ธุรกิจค้าปลีกมีการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาอำนวยความสะดวกในด้านการบริหารและการบริการ ฉะนั้นร้านสหกรณ์จึงต้องปรับตัวให้ทันตามสถานการณ์ทางการค้าและความต้องการสมาชิก โดยการใช้กลยุทธ์การตลาด และปรับแนวคิดการบริการที่เหมาะสม เพื่อให้สมาชิกได้รับการบริการที่ดีที่น่าพอใจ การบริหารเป็นสิ่งสำคัญ สหกรณ์ต้องปรับกลยุทธ์ด้านการบริหารต้นทุน การบริหารคนพร้อม ๆกับพัฒนาด้านการจัดการ การตลาด และอื่น ๆ เพื่อให้องค์กรมีความทันสมัยและคล่องตัว การจัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ของระบบร้านสหกรณ์จะทำให้ร้านสหกรณ์ได้รับ แนวคิดใหม่ ๆ และสามารถมองเห็นจุดเด่นจุดด้อยของตนเอง ก่อนนำไปปรับใช้และกำหนดทิศทางที่ชัดเจนต่อไป นายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว ทางด้านนายพีระพันธ์ เหมะรัต รองประธานกรรมการคนที่ 1 ชุมนุมร้านสหกรณ์แห่งประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา มีธุรกิจ ข้ามชาติเข้ามาในประเทศอย่างมากมาย กระจายอยู่ทั่วแทบจะทุกชุมชน ทำให้ปัจจุบันธุรกิจหลายอย่างต้องปิดตัวลงด้วยมีธุรกิจค้าปลีกต่างชาติเข้ามาแข่งขันมากขึ้น ซึ่งถ้าปล่อยให้ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้เกิดขึ้นต่อไปโดยไม่แก้ไขอะไร อาจทำให้ร้านสหกรณ์หายไปจากประเทศไทยได้ วันนี้ธุรกิจร้านค้าสหกรณ์ในภาพรวมมียอดขายอยู่ประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยสหกรณ์ในประเทศไทยมี 1,000 กว่าสหกรณ์ สมาชิกประมาณ 10 ล้านคน และมีร้านค้าสหกรณ์ 300 กว่าแห่ง สมาชิกประมาณ 700,000 กว่าคน แต่มีร้านสหกรณ์ที่สามารถบริหารจัดการองค์กร จนเลี้ยงตัวเองให้อยู่รอดได้มีเพียงกว่า 150 แห่งเท่านั้น เฉลี่ยแล้วสมาชิกมาซื้อสินค้าที่ร้านสหกรณ์ไม่ถึง 500 บาทต่อคน ซึ่งถือว่าน้อยมาก ดังนั้นร้านสหกรณ์จึงต้องมีการปรับปรุงการบริหารจัดการ พัฒนาระบบองค์กร หาแนวทางดึงดูดลูกค้าและสมาชิกให้เข้ามาใช้จ่ายที่ร้านสหกรณ์ อีกทั้งต้องหาแนวทางต่าง ๆ เพื่อให้สามารถสู้กับธุรกิจค้าปลีกต่างชาติได้ ซึ่งจุดแข็งของร้านสหกรณ์จะแตกต่างจากธุรกิจค้าปลีกอื่น คือ สมาชิกเปรียบเสมือนเจ้าของร้านค้า เมื่อซื้อสินค้าแล้ว เมื่อถึงสิ้นปีหากร้านสหกรณ์มีผลกำไรเป็นเงินเท่าใด ก็จะปันผลคืนกลับมาให้สมาชิก ตามสัดส่วนมูลค่าสินค้าที่ซื้อจากร้านสหกรณ์นั้น ๆ ทำให้ไม่เกิดการเอารัดเอาเปรียบกัน ในการซื้อขาย แต่จุดอ่อนก็มีเยอะมากเช่นเดียวกัน ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาและจัดทำแผนยุทธศาสตร์ เพื่อให้สหกรณ์ร้านค้าสามารถอยู่รอดได้ โดยระดมความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ จัดทำแผนยุทธศาสตร์ของระบบร้านสหกรณ์ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาระบบร้านสหกรณ์ให้ดำรงอยู่ได้อย่างเข้มแข็งต่อไป โครงการสัมมนาเพื่อจัดทำแผนยุทธศาสตร์ของระบบร้านค้าสหกรณ์ จะรวบรวมสภาพปัญหาที่แท้จริงของการดำเนินธุรกิจปัจจุบัน โดยเฉพาะในเรื่องการแข่งขันกับร้านค้าปลีกสมัยใหม่ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ได้รับคำตอบว่าร้านค้าสหกรณ์สามารถแข่งขันกับร้านค้าปลีกเหล่านี้อย่างไรบ้าง ขณะเดียวกันจะได้นำปัญหาที่แตกต่างกันของแต่ละร้านค้าสหกรณ์มาวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา ให้ร้านค้าสหกรณ์ของคนไทยยังอยู่ได้และอยู่คู่คนไทย รวมทั้งประชาชนสามารถซื้อสินค้าคุณภาพในราคายุติธรรมและแบ่งเงินปันผล ให้กับสมาชิก ซึ่งจะช่วยให้กระแสการเงินไหลเวียนอยู่ในประเทศไทยอีกด้วย นายพีระพันธ์ เหมะรัต รองประธานกรรมการคนที่ 1 ชุมนุมร้านสหกรณ์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าว.
ที่มา : เดลินิวส์ ออนไลน์