นายเลอพงษ์ มุสิกะมาน รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีเป้าหมายในการพัฒนาภาคการเกษตรของประเทศให้มีความยั่งยืนมั่นคง เพื่อเกษตรกรจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ประชาชนมีอาหารบริโภคที่ปลอดภัย ภายใต้นโยบายเกษตรเพื่อเกษตร เกษตรเพื่อประชาชน และเกษตรเพื่อเศรษฐกิจ โดยจะมีการนำพื้นที่ที่มีความเหมาะสม มาจัดตั้งเป็นนิคมการเกษตร ซึ่งทิศทางการพัฒนาในพื้นที่นิคมการเกษตรจะมุ่งเน้นการพึ่งพาตนเอง ส่งเสริมวิธีคิด องค์ความรู้และการบริหารจัดการ การรวมกลุ่มในการสร้างรายได้ ลดรายจ่ายตามแนวปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง ในปีงบประมาณ 2553 กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้รับงบประมาณดำเนินการจัดตั้งนิคมการเกษตรพืชอาหารและพืชพลังงานทดแทนในเขตนิคมสหกรณ์ เพื่อรองรับนโยบายการปรับโครงสร้างภาคการเกษตรของรัฐบาล โดยการคัดเลือกพื้นที่ที่มีความเหมาะสมกำหนดเป็นเขตพื้นที่เฉพาะ 15 นิคมสหกรณ์ ในการผลิตพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ 6 ชนิด ได้แก่ ถั่วเหลือง ข้าว อ้อย ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน้ำมัน และมันสำปะหลัง พร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพและบริหารจัดการผลิตและการตลาดให้ครบวงจรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ทางการเกษตร ที่ได้มาตรฐานสอดคล้องกับอุตสาหกรรมเกษตร ด้วยศักยภาพของกรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยนิคมสหกรณ์แม่แตงและสหกรณ์นิคม แม่แตงจำกัด ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์จึงเห็นสมควรให้จัดตั้งนิคมการเกษตรพืชอาหารและพืชพลังงานทดแทนในเขตพื้นที่ของสหกรณ์นิคมแม่แตง จำกัด ขึ้น เพื่อส่งเสริมพืชอาหารและพืชพลังงาน ได้แก่ ถั่วเหลือง โดยให้ความสำคัญในการลดรายจ่ายของเกษตรกร ลดต้นทุน ควบคุมปัจจัยการผลิต การพัฒนาพันธุ์ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของสมาชิกสหกรณ์ให้ดียิ่งขึ้น นายเลอพงษ์ มุสิกะมาน รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว และเมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2553 ที่ผ่านมานายเลอพงษ์ มุสิกะมาน รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และผู้บริหารของบริษัท กรีน สปอต จำกัด ได้ร่วมเป็นประธานในพิธีลงนาม การ เซ็นข้อตกลงซื้อขายผลผลิต ถั่วเหลืองระหว่างสมาชิกนิคมสหกรณ์แม่แตง กับบริษัท กรีนสปอต จำกัด (ผู้ผลิตนมถั่วเหลืองไวตามิ้ลค์) ณ นิคมสหกรณ์แม่แตง จ.เชียงใหม่ อันเนื่องมาจากโครงการนิคมการเกษตรพืชอาหารและพืชพลังงานทดแทนในเขตพื้นที่นิคมสหกรณ์ ถั่วเหลือง เป็นพืชที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศพืชหนึ่งสามารถขึ้นได้ดีในสภาพดินฟ้าอากาศของประเทศไทย ทั้งฤดูฝนและฤดูแล้งเป็นพืชที่ให้โปรตีนสูง และราคาถูกเมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์ แหล่งปลูกในประเทศไทย ได้แก่ ภาคเหนือ และภาคกลาง เช่น สุโขทัย เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ พิจิตร พิษณุโลก แพร่ ลำปาง ตาก กำแพงเพชร ลพบุรี สระบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง กาญจนบุรี ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นแหล่งที่มีสภาพดินฟ้าอากาศเหมาะสม สามารถกระจายเนื้อที่ปลูกได้กว้างขวาง ถั่วเหลืองเป็นพืชที่มีประโยชน์ต่อมนุษย์มาก เมล็ดถั่วเหลืองมีโปรตีนสูงถึงร้อยละ 40 นำมาประกอบเป็นอาหารได้หลายชนิด ให้ผลพลอยได้ในพื้นที่หลังจากปลูกถั่วเหลือง คือ ทำให้ดินมีความสมบูรณ์ดีขึ้น จากผลการศึกษาพบว่าเมื่อปลูกถั่วเหลือง 1 ไร่ จะมีปุ๋ยไนโตรเจนตกค้างในดินในรูปของสารประกอบ ซึ่งรากพืชสามารถดูดเอาไปใช้ได้ประมาณ 50 กิโลกรัมต่อไร่ ถ้าปลูกพืชชนิดอื่นหลังจากปลูกถั่วเหลืองแล้วจะทำให้พืชที่ปลูกตามมาเจริญงอกงามดี และให้ ผลผลิตสูง เกษตรกรจึงนิยมปลูกถั่วเหลืองเป็นพืชสลับ หรือหมุนเวียนกับการปลูกข้าว ข้าวโพด ฝ้าย ปอ ฯลฯ เป็นต้น พันธุ์ถั่วเหลือง เชียงใหม่ 60 ที่มีการสนับสนุนให้เกษตรกรในนิคมสหกรณ์แม่ แตงปลูกจะเป็นพันธุ์ที่ทนทานต่อโรคราสนิมได้ดี มีกิ่งน้อย มีจำนวนฝักมาก สามารถเพิ่มจำนวนต้นต่อไร่ได้อีกและผลผลิตจะเพิ่มสูงขึ้นด้วย ตอบสนองต่อปุ๋ยอัตราต่ำได้ อายุเก็บเกี่ยว 97 วัน ปลูกได้ 3 ฤดู คือ ฤดูแล้ง ต้นฤดูฝน และ ปลายฤดูฝน และผลผลิตมีตลาดรองรับทั้งหมดโดยที่เกษตรกรผู้ปลูก ไม่ต้องกังวลถึงผลได้จากผลผลิตที่ปลูกในทุกฤดูกาล.
ที่มา : เดลินิวส์ ออนไลน์