เมื่อวันที่ 23-24 กันยายน 2553 ที่ผ่านมา นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมโครงการฝึกอบรมสัญจร ครั้งที่ 2 ในโครงการนำร่องขยายผลสำเร็จของงานวิชาการด้านการเกษตรของโครงการศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วยซอน-ห้วยซั้ว (หลัก 22) ไปสู่ เจ้าหน้าที่กสิกรรมจากแขวงต่าง ๆ ใน สปป.ลาว ซึ่งได้จัดขึ้น ณ แผนกกสิกรรมและป่าไม้ แขวงสะหวันนะเขต โดยมีท่านวิไลสุก เคนนะวง หัวหน้าแผนกกสิกรรมและป่าไม้ แขวงสะหวันนะเขตให้การต้อนรับ และ นายเฉลิมเกียรติ แสนวิเศษ เลขาธิการ กปร. บรรยายพิเศษเกี่ยวกับความเป็นมาโครงการศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วยซอน-ห้วยซั้ว (หลัก 22) และผลสำเร็จของโครงการฯ ที่สามารถนำไปขยายผลสู่เกษตรกร สปป.ลาว และ นายสุวัฒน์ เทพอารักษ์ รองเลขาธิการ กปร. ร่วมเสวนาในหัวข้อแนวทางการดำเนินงานขยายผลสู่แขวงสะหวันนะเขต
โดยมีเจ้าหน้าที่กสิกรรมเมือง (เกษตร อำเภอ) จาก 15 เมืองของแขวงสะหวันนะเขต และเจ้าหน้าที่แขนงต่าง ๆ ในสังกัดของแผนกกสิกรรมและป่าไม้ แขวง สะหวันนะเขต กว่า 40 คนเข้าร่วม ในที่อบรมมีการกล่าวถึงงานด้านวิชาการองค์ความรู้ เทคนิค และผลสำเร็จของงานพัฒนาด้านต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินการในศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วยซอน-ห้วยซั้ว หลัก 22 ประกอบด้วย งานด้านชลประทาน เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ การจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำ เพื่อบริหารการใช้น้ำด้วยผู้ใช้น้ำเอง งานพัฒนาที่ดิน เน้นด้านความสำคัญของการปรับปรุงบำรุงดิน ประโยชน์ของหญ้าแฝก การทำปุ๋ยหมัก สารเร่ง พด. น้ำหมักชีวภาพ งานวิชาการเกษตร กล่าวถึงการปลูกข้าว การปลูกผักปลอดสาร และไม้ผล อาทิ ลิ้นจี่ เป็นต้น ด้านงานการประมง มีการพูดถึงการเพาะ-ขยายพันธุ์ปลา และการเพาะพันธุ์ปลานิลแปลงเพศ ที่ศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วยซอน-ห้วยซั้ว ได้ดำเนินการจนประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ ส่วนด้านปศุสัตว์ มีการกล่าวถึงการเลี้ยงไก่ เป็ด สุกร โค การสุขาภิบาลสัตว์ การขยายพันธุ์สัตว์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้จัดให้มีเวทีสำหรับการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ระหว่างนักวิชาการ วิทยากรผู้บรรยาย และ ผู้เข้ารับการฝึกอบรม ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้ารับการฝึกอบรม โดยส่วนใหญ่ มีคำถามด้านการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพในการผลิตด้านการเกษตร ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เจ้าหน้าที่กสิกรรมของแขวงสะหวันนะเขตยังไม่เคยนำมาใช้ปฏิบัติมาก่อน แขวงสะหวันนะเขตตั้งอยู่ตอนกลาง ค่อนไปทางใต้ของประเทศสาธารณรัฐประชา ธิปไตยประชาชนลาว ทิศตะวันออกติดกับประเทศเวียดนาม ทิศตะวันตกติดกับประเทศไทย ทิศเหนือติดกับแขวงคำม่วน ทิศใต้ติดกับแขวงสาละวัน นับเป็นแขวงใหญ่อันดับที่ 1 ของประเทศลาว มีสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 สะหวันนะเขต-มุกดาหาร ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างตะวันออกกับตะวันตก จากเวียดนาม ถึงพม่า ทำให้แขวงสะหวันนะเขตกลายเป็น เส้นทางการค้าที่สำคัญอีกแห่งของลาว
แขวงนี้มีประชากรอาศัยมากสุดประมาณ 824,662 คน หรือ 15 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งประเทศ ส่วนใหญ่เป็นชาวลาวลุ่ม ไทดำ กะเลิง กะตัง ลาเว้ ปาโก ส่วน เป็นแขวงที่มีพื้นที่กว้างใหญ่เป็นอันดับ 2 ของ สปป.ลาว รองจากเมืองหลวงกำแพงพระนครเวียงจันทน์ โดยมีแม่น้ำโขงกั้นเป็นพรมแดนกับประเทศไทย พืชผลทางการเกษตรที่สำคัญปัจจุบัน จะมีการปลูก ข้าว ข้าวโพด ยาสูบ ถั่วเขียว ถั่วเหลือง แตงโม แตงกวา ถั่วลิสง ฝ้าย เผือก มัน กระเทียม พริก อ้อย พืชผลเพื่อการอุตสาหกรรมประกอบด้วย ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ยาสูบ ฝ้าย อ้อย สัตว์เลี้ยงมี วัว ควาย หมู แพะ และสัตว์ปีกต่าง ๆ จุดเด่นของแขวงสะหวันนะเขต คือตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างจังหวัดมุกดาหารกับจังหวัดกวางตรีของประเทศเวียดนาม ที่เชื่อมโยงไปเว้ และดานัง อันเป็นจุด เชื่อมเส้นทางคมนาคม ทางบก ทางน้ำ เป็นแขวงที่มีเศรษฐกิจดีที่สุดของ 16 แขวงใน สปป.ลาว มีรายได้จากการเก็บ ภาษีนำเข้าและส่งออกประมาณ 55 ล้านบาทหรือ 16,500 ล้านกีบต่อปีโดยประมาณ.
ที่มา : เดลินิวส์ ออนไลน์